Call Center : 088-892-2666
Line OA : @Theritzclinic
Open hours : 10:00 – 20:00

Filler

- By Dr. Ritz
ฟิลเลอร์กับเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดเพื่อให้คุณสวยได้อย่างปลอดภัย

ความสมดุลบนใบหน้าคือความงดงามในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเสริมบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้กับการใช้ชีวิต และวิธีหนึ่งในการสร้างสมดุลให้กับใบหน้าที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) นับว่าเป็นวิธีช่วยปรับแก้ไขรูปหน้าให้ดูสมดุลที่ทำได้สะดวกและเห็นผลลัพธ์ได้ไว นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการปรับสมดุลรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงทำให้วิธีนี้ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจหรือกำลังตัดสินใจที่จะฟิลเลอร์ด้วยเช่นกัน มีสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่จะมีอะไรบ้างลองมาติดตามกันเล

ฟิลเลอร์คืออะไร

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มผิวที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังและสามารถคงตัวอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังได้ชั่วคราวหรือถาวร โดยสารเติมเต็มผิวดังกล่าวนี้เป็นสารที่ในกลุ่มไฮยาลูโรนิค แอซิดหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า HA (Hyaluronic Acid) สารเติมเต็มผิวประเภทนี้มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นสามารถเติมเต็มชั้นผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้บริเวณที่ฉีดเข้าไปผิวจะเต่งตึงดูสุขภาพดีได้ด้วยคุณสมบัติเหล่าทำให้สารเติมเต็มชนิดนี้ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มชั้นผิวบริเวณส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เป็นการทดแทนปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวที่หายไป สารนี้เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะไม่มีการตกค้างในร่างกาย เพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทาง U.S. FDA หรือองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้ให้การรับรองแล้วว่ามีความปลอดภัย สามารถใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายได้ จึงมีการนำมาใช้ในวงการแพทย์ด้านความงามอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

ฟิลเลอร์มีอยู่ด้วยกันกี่ชนิด

ชนิดของฟิลเลอร์นั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆได้ 2 กลุ่มดังนี้

1. Permanent Filler : ฟิลเลอร์ที่อยู่แบบถาวร

ฟิลเลอร์กลุ่มนี้ถ้ามีการฉีดเข้าไปแล้วจะไม่สลายได้เองและอาจมีผลข้างเคียงได้ในระยะยาว โดยสารที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็คือ ซิลิโคนเหลว (Liquid Silicone), พาราฟิน (Paraffin) เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันสารในกลุ่มนี้องค์การอาหารและยาไม่อนุญาตให้ใช้เป็นสารเติมเต็ม เนื่องจากฉีดเข้าไปแล้วจะไม่สลายได้เองและมีโอกาสที่ฉีดเข้าไปแล้วจะเป็นก้อนแข็ง ทำให้มีโอกาสเกิดการอักเสบ เป็นหนอง และยากต่อการแก้ไข หากจะแก้ไขก็จะต้องผ่าออกหรือขูดออกเท่านั้น

2. Non-Permanent Filler : ฟิลเลอร์ชั่วคราว

ฟิลเลอร์กลุ่มนี้เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะสามารถสลายได้เอง หลังสลายไปก็สามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยสารที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็มีอยู่หลายชนิดทั้ง Hyaluronic Acid, Autologous Fat, Calcium Hydroxyapatite เป็นต้น ฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ทางอย.ไทยให้การรับรองแล้วว่าปลอดภัย ได้รับความนิยมและมีใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid หรือ HA เนื่องจากเป็นสารประเภทที่พบได้ในธรรมชาติของร่างกาย จึงเข้ากันได้กับร่างกายของเราโดยไม่เป็นอันตรายฟิลเลอร์ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
การฉีดนั้นจะฉีดตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า บริเวณที่มีปัญหาร่องลึกและริ้วรอย โดยบริเวณที่สามารถฉีด
ได้และได้รับความนิยมมีอยู่ด้วยกัน 7 จุดดังน

ฟิลเลอร์ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

การฉีดนั้นจะฉีดตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า บริเวณที่มีปัญหาร่องลึกและริ้วรอย โดยบริเวณที่สามารถฉีดได้และได้รับความนิยมมีอยู่ด้วยกัน 7 จุดดังนี

1. ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นับเป็นจุดแรกที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เพราะจะช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ แก้ปัญหาสำหรับคนที่มีถุงใต้ตา ช่วยเติมเต็มเบ้าตาลึกและลดริ้วรอยอย่างได้ผล ทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

2. ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมในการฉีดและแพทย์ส่วนใหญ่แนะน การเติมเต็มที่ร่องแก้มจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก ฉีดแล้วช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และหลังฉีดสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที

3. คาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับคนที่มีฐานคางเดิมอยู่แล้วและต้องการเสริมให้คางดูยาวเรียวได้รูปมากขึ้น หรือคนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด ซึ่งการเติมเต็มในจุดนี้จะเท่ากับเป็นการปรับรูปหน้า ทำให้หน้าดูเรียวและมีมิติมากขึ้น

4. ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนสนใจ เพราะสามารถแก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน ปากบางปากแห้งเป็นร่องได้ เมื่อฉีดเข้าไปก็จะทำให้ปากชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นแล้วการฉีดในจุดนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปปากให้เป็นทรงต่าง ๆ ด้วย

5. หน้าผาก
บริเวณหน้าผากก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ การฉีดในจุดนี้จะช่วยเสริมหน้าผากให้โหนกนูน ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มีหน้าผากบุ๋มยุบ หน้าผากแบน หรือมีริ้วรอยร่องลึกบริเวณหน้าผาก เป็นหนึ่งวิธีในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนโดยไม่ต้องพักฟื้น

6. ขมับ
การฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับ โดยรวมแล้วจะเป็นการฉีดเติมเต็มเพื่อปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น จะช่วยลดความเด่นของโหนกแก้ม จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่และดูเด่นเกินไป นอกจากนั้นแล้วการฉีดในจุดนี้ยังช่วยแก้ปัญหาคนที่มีขมับบุ๋ม ขมับยุบ และคนที่มีปัญหาเปลือกตาตกได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ดีอย่างไร

1. สามารถช่วยลดการเกิดริ้วรอย ช่วยชะลอวัยทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ เพราะฟิลเลอร์จะช่วยทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และแม้ว่าสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปจะสลายไปหมดแล้วตามกาลเวลา ผิวก็จะยังคงสภาพที่ดูดีเพราะคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายจะยังคงอยู่ ไม่สลายหายไปนั่นเอง

2. ให้ผลลัพธ์ที่ดูดีมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าการเติมเต็มผิวด้วยวิธีอื่น ๆ

3. เป็นหัตถการที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก อย. ไม่มีสารตกค้าง สามารถสลายเองได้ตาม
ธรรมชาติ

4. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีความเสี่ยงในการวางยาสลบ ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้น

5. หลังฉีดเห็นผลทันทีและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกต

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร

สำหรับฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวในปัจจุบันจะมียี่ห้อให้เลือกมากมาย และในแต่ละยี่ห้อก็ ยังจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นรุ่นย่อยให้เลือกลงไปอีก ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้หลายคนสงสัยว่าแต่ละยี่ห้อมีความ แตกต่างกันอย่างไร แล้วควรจะเริ่มต้นเลือกจากยี่ห้อไหนดี ตรงนี้จึงขอแนะน ฟิลเลอร์ 4 ยี่ห้อหลักที่ อย.ไทยรับรอง โดยแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างที่น่าสนใจดังนี้

1. Restylane
เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่พัฒนาขึ้นจากประเทศสวีเดน มีการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด ยี่ห้อนี้มีการนำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบันก็ยังมีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิตรุ่นใหม่ออกมา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย ตอบโจทย์กับการนำมาใช้แก้ปัญหาผิวที่หลากหลายอีกด้วย เช่น Restylane Classic ตัวเนื้อสารฟิลเลอร์จะมีโมเลกุลใหญ่ ให้สัมผัสที่แข็งปานกลาง เหมาะสำหรับการใช้เติมปัญหาร่องลึกต่าง ๆ, Restylane Vital Light เนื้อสารจะนิ่มและมีโมเลกุลขนาดเล็ก เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยและการเติมผิวชั้นตื้น เป็นต้น

2. Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยแล้วทั้งจาก อย.อเมริกา และ อย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ยี่ห้อนี้จะมีการผสมยาชามาเรียบร้อย ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาฉีด สามารถนำไปใช้ได้กับทุกจุดบนใบหน้า และเป็นหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูง ปัจจุบันมีรุ่นย่อยออกมาหลายรุ่นและมี คุณสมบัติที่น่าสนใจแตกต่างกันไป เช่น Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อสัมผัสมีความละเอียดเรียบเนียนและมีความนิ่มในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับการเติมร่องแก้ม เติมปาก, Juvederm Volbella เนื้อนิ่มและมีความเรียบเนียนเช่นกัน แต่จะเหมาะกับการฉีดลดริ้วรอยใต้ตา และริ้วรอยชั้นตื้นในบริเวณอื่น ๆ เป็นต้น

3. Belotero
เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ยี่ห้อนี้มีการใช้ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) เป็นเทคนิคพิเศษในการผลิตทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น ยี่ห้อนี้นำเข้าโดย บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด และรุ่นย่อยที่มีความน่าสนใจก็เช่น Belotero Volume เนื้อจะมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะสำหรับการเติมขมับ คาง แก้มตอบ, Belotero Balance เหมาะสำหรับการเติมร่องแก้ม หว่างคิ้ว, Belotero Soft เหมาะสำหรับการเติมเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยชั้นตื้น อย่างริ้วรอยที่ใต้ตา และหางตาเป็นต้น

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นและความพิเศษแตกต่างกันออกไป เนื่องจากกระบวนการผลิต สาร HA ของแต่ละยี่ห้อก็จะมีสูตรเฉพาะของตนเอง ดังนั้นถ้าเลือกไม่ได้ก็แนะนำว่าควรลองปรึกษาและ ขอคำแนะนำจากแพทย์ก็จะช่วยทำให้เลือกได้อย่างเหมาะสม

ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับการฉีดในแต่ละจุด

• ใต้ตา ปริมาณที่เหมาะสม คือ 2-4 CC

• ร่องแก้ม ปริมาณที่เหมาะสม คือ 1-3 CC

• คาง ปริมาณที่เหมาะสม คือ 1-4 CC

• ปาก ปริมาณที่เหมาะสม คือ 1-2 CC

• หน้าผาก ปริมาณที่เหมาะสม คือ 2-4 CC

• ขมับ ปริมาณที่เหมาะสม คือ 1-3 CC

เหตุผลที่คุณควรฉีดฟิลเลอร์ที่ THE RITZ CLINIC

1. ดำเนินการโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และชำนาญการด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ได้มาตรฐาน นำเข้ามาอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพทั้งจากอเมริกา ยุโรป และไทย (U.S. FDA, TH-FDA, CE) จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย

3. มีผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่นหลายแบรนด์ ซึ่งทำให้ตอบโจทย์สภาพผิวและรูปหน้าของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม

4. การันตีในผลลัพธ์ว่าคุณจะต้องพึงพอใจ

5. มีการติดตามผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการเกิดความมั่นใจและยังมีการเปรียบเทียบผลลัพธ์ทั้งก่อนและหลังท ให้ผู้เข้ารับบริการได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย

ข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดฟิลเลอร์

1. ก่อนทำ 3-7 วันควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน

2. ก่อนทำ 1 วันควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3. ก่อนทำ 1 วัน ควรงดการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด รวมไปถึงควรเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสความร้อน อย่างการซาวน่า ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เป็นต้น

4. หากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการของผิวหนังอักเสบบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ควรแจ้งแพทย์
ก่อนทำหัตถการ

หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วควรปฏิบัติตัวอย่างไร

1. หลังฉีดอาจพบอาการเขียวช้ำหรือบวมแดงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณจุดที่ฉีด หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง

2. หลีกเลี่ยงให้บริเวณจุดที่ฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกับความร้อนทุกชนิด อย่าง การตากแดด การออกกำลังกายกลางแจ้ง การซาวน่า เป็นต้น

3. ให้เลี่ยงการขยับผิวในจุดที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวจนอยู่ผิดตำแหน่งได้

4. ควรดื่มน้ำมาก ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ ฟิลเลอร์ ที่ฉีดคงสภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น

Share

Reviews

Program

FILLER

“ลูกน้ำเลือกฉีดฟีลเลอร์ที่ THE RITZ CLINIC
สำหรับการแก้ไขปัญหา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ใต้ตาโทรม บอกได้เลยว่า หลังจากที่ฉีดไปแล้ว ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติสุดๆ ชอบในเรื่องที่นี่ใส่ใจทุกปัญหาของคนไข้ หลังจากที่เราทำ 3 cc เทคนิคเฉพาะที่ THE RITZ CLINIC ดีมากเลยค่ะ เป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่เจ็บอย่างที่คิด”
วสุนธรา คันทาโย (ลูกน้ำ)

Related Services

Botulinum Toxin
Botulinum Toxin
ORGANIC-FAT-BOMB
ORGANIC-FAT-BOMB

ซื้อโปรแกรม LIFU

ลดทันที 5,000 .-

ปรึกษาฟรี
ถามหมอได้เลยครับ