รวมเรื่องต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อการดูแลผิวใต้ตาให้สดใสอย่างปลอดภัย
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ดวงตาเป็นอวัยวะบนใบหน้าที่มีความโดดเด่นอย่างมาก ถ้าหากเรามีริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ผิวใต้ตาดำคล้ำ หรือถุงใต้ตา ก็จะสังเกตได้ง่ายมาก และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูโทรม ไม่สดใส เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ และแก่กว่าวัย ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความสวยงามและความมั่นใจแล้ว ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราด้วย
ใครที่มีปัญหาใต้ตาเหล่านี้อยู่ แล้วกำลังมองหาวิธีรักษาที่เห็นผล เจ็บตัวน้อย และไม่ต้องพักฟื้น “การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา” นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ได้รับความนิยมในทั่วโลก สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
แต่สำหรับใครที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตามาก่อนก็อาจจะรู้สึกกังวล หรือกลัวว่าจะเป็นอันตราย เดอะริทซ์คลินิก (The Ritz Clinic) ได้สรุปเรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำฟิลเลอร์ใต้ตามาให้แล้ว รับรองว่าจะช่วยให้คุณเลือกฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลแน่นอน จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyatulonic Acid) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “HA” เข้าไปเติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหารอบดวงตาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาลึกโบ๋ ถุงใต้ตา โดยหลังจากที่ทำฉีดเสร็จแล้ว จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ และสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาลึกโบ๋ ใต้ตาดำคล้ำ ได้อย่างไร
เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนใต้ชั้นผิวและไขมันรอบดวงตาจะมีการลดลง รวมถึงมีการยุบตัวของกระดูกบริเวณรอบดวงตา ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหารอบดวงตาต่าง ๆ เช่น ใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาลึกโบ๋ มีร่องใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา หรือมีถุงใต้ตาตามมา
สารเติมเต็มในกลุ่ม HA นั้น จะมีคุณสมบัติคงตัวอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังได้ชั่วคราว เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว จะเข้าไปแทนที่คอลลาเจนที่ลดลง หรือกระดูกที่ยุบตัวลง ทำให้ปัญหารอบดวงตาดีขึ้นได้ทันที อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น จึงสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวรอบดวงตามีความเต่งตึง เรียบเนียน และมีสุขภาพดีขึ้นด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม
ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ HA เป็นสารเติมเต็มผิวที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และ อย. ของประเทศไทย สามารถนำมาใช้ฉีดปรับรูปหน้าได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
เมื่อฉีดสารเติมเต็มในกลุ่ม HA เข้าไปแล้ว ร่างกายจะสร้างเอนไซม์ไฮยาลูรอนิเดส (Hyaluronidase) มาสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปจนหมด ไม่มีตกค้างในร่างกาย หรือถ้าหากเกิดข้อผิดพลาด หรือไม่พอใจในผลลัพธ์ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาจะต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการสูง มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาโดยเฉพาะ เลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มีความเหมาะสม ก็จะช่วยให้การทำฟิลเลอร์ใต้ตามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ทั้งจากกรรมพันธุ์ และโรคภูมิแพ้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ มีริ้วรอยใต้ตา
- ผู้ที่มีถุงใต้ตา
- ผู้ที่มีใต้ตาลึก ตาโหล
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เหตุผลที่คุณควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ The Ritz Clinic
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วไม่รู้ว่าจะไปฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ให้ The Ritz Clinic เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ ทีมแพทย์ของเราพร้อมให้การดูแลทุกคนด้วยความใส่ใจ ประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนทำ รับรองได้ว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
โดย 5 เหตุผลที่คุณควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ The Ritz Clinic มีดังนี้
- ดำเนินการโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และชำนาญการด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ได้มาตรฐาน นำเข้ามาอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพทั้งจากอเมริกา ยุโรป และไทย (U.S. FDA, TH-FDA, CE) จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
- มีผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่น หลายแบรนด์ ทำให้ตอบโจทย์สภาพผิวและรูปหน้าของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม
- การันตีในผลลัพธ์ว่าคุณจะต้องพึงพอใจ
- มีการติดตามผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการเกิดความมั่นใจและยังมีการเปรียบ
นอกจากนี้ เรายังมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาพิเศษที่มีเฉพาะที่ The Ritz Clinic เท่านั้น อย่าง “Tri-Ligament Under Eyes Lifting Technique” ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาและช่วยยกโครงสร้างบริเวณใบหน้าไปพร้อม ๆ กัน
Tri-Ligament Under Eyes Lifting Technique คือ การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปพยุงเส้นเอ็นทั้ง 3 เส้นบริเวณรอบดวงตา ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและปรับโครงสร้างบริเวณหน้าแก้ม พร้อมกับพยุงชั้นใต้ตาขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และใบหน้ามีมิติมากขึ้น
การเติมฟิลเลอร์บริเวณใต้ตานั้น เป็นจุดที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคนิคขั้นสูงเพื่อที่จะให้ได้ใต้ตาที่สวยเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ซึ่งที่ The Ritz Clinic เราให้การดูแลโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการ มีการให้ความรู้ควบคู่ระหว่างทำหัตถการให้ผู้เข้ารับบริการ จึงสามารถเข้ามาใช้บริการอย่างสบายใจได้เลย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยเทคนิค Tri-Ligament Under Eyes Lifting ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ใต้ตาที่สวยเรียนเนียนได้เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- ปรับมิติในส่วนของใบหน้า
- แก้ปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ได้เป็นอย่างดี
- ช่วยพยุงโครงสร้างบนใบหน้า ปรับมิติใบหน้าได้ดีขึ้น
- ลดโอกาสเกิดอาการเขียวช้ำ
- เป็นเทคนิคการฉีดที่ปลอดภัย ไม่อันตราย แก้ปัญหาได้ตรงจุด
รวมรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาที่ The Ritz Clinic
เราพร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ The Ritz Clinic ด้วยรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาจากผู้ใช้จริงมากมาย มีทั้งคลิปวิดีโอรีวิวขั้นตอนการฉีดอย่างละเอียด และภาพรีวิวก่อนทำและหลังทำทันที สามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์ด้วยตัวเองได้เลย!
เลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี
สำหรับฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวในปัจจุบันจะมียี่ห้อให้เลือกมากมาย และในแต่ละยี่ห้อก็ยังจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นรุ่นย่อยให้เลือกลงไปอีก ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้หลายคนสงสัยว่า แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วควรจะเริ่มต้นเลือกจากยี่ห้อไหนดี
ในส่วนนี้ The Ritz Clinic จะขอแนะนำฟิลเลอร์ใต้ตา 3 ยี่ห้อหลักที่ อย.ไทย รับรอง และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างที่น่าสนใจดังนี้
1. Restylane
เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่พัฒนาขึ้นจากประเทศสวีเดน มีการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และในปัจจุบันก็ยังมีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- Restylane Classic : จะมีเนื้อแข็งปานกลาง สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น-ลึกได้ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก และหน้าผาก
- Restylane Vital Light : จะมีเนื้ออนุภาคขนาดเล็กและอ่อนนุ่มที่สุด เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา ผิวฉ่ำน้ำ และปาก
- Restylane Lyft : จะมีเนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม แก้มส้ม และกรอบหน้า
- Restylane Defyne : จะมีเนื้อแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ฉีดในผู้ที่มีผิวบางได้ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม แก้มส้ม แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก และกรอบหน้า
2. Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกาที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยแล้วทั้งจาก อย. อเมริกา และ อย. ไทย นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ยี่ห้อนี้จะมีการผสมยาชามาเรียบร้อย ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาฉีด สามารถนำไปใช้ได้กับทุกจุดบนใบหน้า และเป็นหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูง โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
- Juvederm Ultra plus : จะมีเนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับแก้ปัญหาร่องลึกบริเวณใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ และร่องน้ำหมาก
- Juvederm Volite : จะมีเนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้ สามารถใช้ฉีดบริเวณใต้ตา และฉีดผิวฉ่ำน้ำได้เช่นกัน
- Juvederm Voluma : จะมีเนื้อแข็ง ฟูปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม และแก้มส้ม
3. Belotero
เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดย บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะมีความน่าสนใจตรงที่ใช้ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษในการผลิตทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
- Belotero Soft (กล่องสีเหลือง) : จะมีเนื้อละเอียดและมีโมเลกุลเล็ก ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณใต้ตา และทำให้ผิวฉ่ำน้ำขึ้นได้
- Belotero Volume (กล่องสีม่วง) : เนื้อจะมีความยืดหยุ่นและคงตัวได้ดี เหมาะสำหรับใช้เพื่อปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใต้ตา คาง ขมับ หรือแก้มส้ม
- Belotero Balance (กล่องสีส้ม) : จะเหมาะสำหรับทำให้ผิวเรียบเนียน นิยมนำมาใช้บริเวณใต้ตา
ข้อดี-ข้อเสียของฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เป็นหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอย ร่องลึก ถุงใต้ตา หรือตาดำคล้ำ
- เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ โดยจะช่วยให้บริเวณใต้ตาดูเต่งตึงและสดใสมากขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
- หากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ จะสามารถฉีดสลายได้ทันที
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ให้ผลลัพธ์ชั่วคราว สามารถอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือของปลอมก็อาจทำให้เป็นอันตรายได้
- เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดจำนวนมาก หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์เมื่อเกิดข้อผิดพลาดได้อย่างทันท่วงที ก็อาจมีโอกาสเสี่ยงเป็นก้อน ช้ำ หรือทำให้ตาบอดได้ (พบได้น้อยมาก)
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ก่อนทำ 3-7 วันควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน
- ก่อนทำ 1 วันควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ก่อนทำ 1 วัน ควรงดการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด รวมไปถึงควรเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสความร้อน อย่างการซาวน่า ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เป็นต้น
- หากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการของผิวหนังอักเสบบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลังฉีดอาจพบอาการเขียวช้ำหรือบวมแดงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณจุดที่ฉีด หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง
- หลีกเลี่ยงให้บริเวณจุดที่ฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกับความร้อนทุกชนิด อย่าง การตากแดด การออกกำลังกายกลางแจ้ง การซาวน่า เป็นต้น
- ให้เลี่ยงการขยับผิวในจุดที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนตัวจนอยู่ผิดตำแหน่งได้
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดคงสภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น
- หากมีอาการปวด สามารถกินยาแก้ปวดได้
- งดแต่งหน้า งดทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือวิตามินซีภายใน 24 ชั่วโมง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ หลังจากนั้นก็อาจจะมีอาการบวมยาชา หรือบวมจากตัวฟิลเลอร์ประมาณ 3-7 วัน และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ ส่วนจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด และการดูแลผิวของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีขึ้นไป
ฟิลเลอร์ใต้ตามีผลข้างเคียงไหม
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- อาจมีผื่น หรือจุดแดงบริเวณรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์
- อาการปวดหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด
- อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป เกิดจากการที่ฟิลเลอร์มีการกักเก็บน้ำใต้ผิวและดูดน้ำจากบริเวณรอบ ๆ จนทำให้ผิวดูฟูกว่าปกติ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน อาจเกิดจากใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินไป หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
- อาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือเกิดการอักเสบ จะมีลักษณะเป็นก้อนบวมนูน ผิวแดง และรู้สึกปวดมาก หากมีอาการดังกล่าวจะต้องรีบไปแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่ CC ถึงจะเห็นผล
ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 CC (รวมทั้งสองข้าง) ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนและการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษา หากอยากทราบปริมาณที่แน่นอนก็สามารถเข้ามาให้แพทย์ที่ The Ritz Clinc ประเมินได้เลย
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่
ราคาการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด และโปรโมชันของแต่ละคลินิก โดยที่ The Ritz Clinic เรามีโปรโมชันฟิลเลอร์ใต้ตาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท* สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินสภาพผิวได้ที่ The Ritz Clinic ทุกสาขา ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จองคิวออนไลน์ได้เลยที่ Line OA: @theritzclinic หรือ Facebook Inbox: THE RITZ หรือ IG : theritzclinic.official หรือโทรศัพท์ 088-892-2666
*ราคาโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมก่อนสั่งซื้อแพ็กเกจ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม
ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์จะมีการผสมยาชาเข้าไปด้วย และก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะทำการประคบเย็นก่อน ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้มาก ทำให้คนไข้บางคนอาจจะไม่รู้สึกเจ็บเลย หรือรู้สึกเจ็บแค่นิดเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กลัวเจ็บมาก ๆ ก็สามารถให้แพทย์แปะยาชาก่อนได้
ฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว ใต้ตาจะกลับมาคล้ำและมีริ้วรอยเหมือนเดิมไหม
หลังจากฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว ผิวบริเวณใต้ตาก็อาจจะกลับมาดำคล้ำได้อีก แต่จะดำคล้ำมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย ถ้าหากนอนดึกบ่อย ๆ ชอบทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อนบริเวณใต้าบ่อย ๆ หรือขยี้ตาบ่อย ๆ ก็จะทำให้ใต้ตากลับมาดำคล้ำได้ไวขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเติมฟิลเลอร์ใต้ตาตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ไว้ได้
สรุปเรื่องฟิลเลอร์ใต้ตา
จะเห็นได้ว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกใต้ตา ผิวใต้ตาดำคล้ำ ตาลึก ตาโหล รวมถึงถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้น ใครที่มีปัญหาใต้ตาอยู่ แนะนำให้ลองเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้เลย รับรองว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน แต่จะต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญ ทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น เพื่อการดูแลผิวใต้ตาให้สดใสอย่างปลอดภัย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- ติดต่อโดยตรงที่เดอะริทซ์คลินิก The Ritz Clinic ทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
- Facebook Inbox THE RITZ : https://www.facebook.com/theritzclinic
- Line Official Account : @theritzclinic
- Instagram : theritzclinic.official
- โทรเข้า Call Center ของ The Ritz Clinic : 088-892-2666
เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างดี ทีมคุณหมอพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก: Healthline, All About Vision
Share
