เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ฟิลเลอร์ขมับคืออะไร
ฟิลเลอร์ขมับ คือ การฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เข้าไปเติมเต็มบริเวณขมับ เพื่อทำให้ขมับที่ดูตอบ ยุบ หรือลึกโหล ดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สมดุล และทำให้หน้าดูหวานละมุนขึ้นได้ทันที
ฟิลเลอร์ขมับช่วยเรื่องอะไรบ้าง
สาเหตุที่ทำให้เนื้อบริเวณขมับดูยุบ หรือตอบลงไปนั้น เกิดจากการยุบตัวของกระดูก หรือไขมันบริเวณขมับมีการฝ่อตัวลงจากการที่เราอายุเพิ่มมากขึ้น หรือลดน้ำหนักรวดเร็วจนเกินไป ซึ่ง HA จะมีคุณสมบัติคงตัวอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังได้ชั่วคราว เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว จะเข้าไปแทนที่ช่องว่างที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก หรือไขมันที่ฝ่อตัว แล้วทำให้บริเวณนั้นดูเต็มขึ้นได้
ฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม
ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “HA Filler”เป็นสารเติมเต็มผิวที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และ อย. ของประเทศไทย สามารถนำมาใช้ฉีดปรับรูปหน้าได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ร่างกายจะสามารถสร้างเอนไซม์ไฮยาลูรอนิเดส (Hyaluronidase) มาสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย นอกจากนี้ HA ยังเป็นสารที่สร้างเลียนแบบสารที่พบในร่างกายของมนุษย์ จึงทำให้มีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้น้อย และถ้าหากมีข้อผิดพลาด หรือไม่พอใจในผลลัพธ์ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที
ฟิลเลอร์ขมับเหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น อายุเพิ่มมากขึ้น การลดน้ำหนักตัว หรือการจัดฟัน
- ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่และกางออกด้านข้าง ทำให้ใบหน้าดูดุและมีอายุ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ จะช่วยทำให้โหนกแก้มดูเล็กลง และรูปหน้าเรียวขึ้นได้
- ผู้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้งใบหน้า โดยคนที่มีหน้าเต็ม ขมับเต็ม จะถือว่าเป็นคนที่มีโหงวเฮ้งดีมาก ๆ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ โชคดี และร่ำรวย
ฟิลเลอร์ขมับไม่เหมาะกับใคร
- ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมของฟิลเลอร์ ทั้งสารไฮยาลูรอนิกแอซิด และยาชา
- ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์ง่าย เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด เป็นเริม หรืองูสวัด อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมก่อนทำหัตถการ\
เลือกฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี
ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีเทคโนโลยีการผลิต จุดเด่น และมีรุ่นย่อยให้เลือกมากมาย ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าควรจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี เพราะไม่รู้ว่าแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ง่าย ๆ The Ritz Clinic จะขอแนะนำฟิลเลอร์ขมับ 3 ยี่ห้อหลักที่ อย.ไทย รับรอง และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างที่น่าสนใจดังนี้
1. Restylane
เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่พัฒนาขึ้นจากประเทศสวีเดน มีการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และในปัจจุบันก็ยังมีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีดังนี้
- Restylane Volyme : เป็นรุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์นิ่ม เหมาะสำหรับเติมเต็มชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น สามารถนำมาใช้ฉีดบริเวณขมับ หรือแก้มตอบได้
- Restylane Defyne : เป็นรุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์แข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบาง สามารถนำมาใช้ฉีดบริเวณใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม แก้มส้ม แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก และกรอบหน้าได้
2. Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกาที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยแล้วทั้งจาก อย. อเมริกา และ อย. ไทย นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ยี่ห้อนี้จะมีการผสมยาชามาเรียบร้อย ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาฉีด สามารถนำไปใช้ได้กับทุกจุดบนใบหน้า และเป็นหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูง โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ได้แก่
- Juvederm Ultra Plus : เนื้อฟิลเลอร์จะมีความนิ่มและฟูมาก สามารถใช้แก้ปัญหาร่องลึกได้ดี สามารถนำมาฉีดใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ และร่องน้ำหมากได้
- Juvederm Voluma : เนื้อฟิลเลอร์จะมีความแข็ง ฟูในระดับปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำมาใช้ฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม และแก้มส้มได้
3. Belotero
เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดย บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะมีความน่าสนใจตรงที่ใช้ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษในการผลิตทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น
รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือ Belotero Volume (กล่องสีม่วง) จะเป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อมีความยืดหยุ่นและคงตัวได้ดี สามารถนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ใต้ตา คาง ขมับ หรือแก้มส้ม
ฟิลเลอร์ขมับฉีดกี่ CC
ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของขมับ และการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษา แต่โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณที่เหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะอยู่ที่ 1-3 CC
ฟิลเลอร์ขมับราคาเท่าไหร่
ราคาการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยการฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ The Ritz Clinic ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท* สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินสภาพผิวได้ที่ The Ritz Clinic ทุกสาขา ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จองคิวออนไลน์ได้เลยที่ Instagram : THERITZCLINIC.OFFICIAL หรือ Line OA: @theritzclinic หรือ Facebook Inbox: THE RITZ หรือโทรศัพท์ 088-892-2666
*ราคาโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมก่อนสั่งซื้อแพ็กเกจ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ก่อนทำ 3-7 วันควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน
- ก่อนทำ 1 วันควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ก่อนทำ 1 วัน ควรงดการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด รวมไปถึงควรเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสความร้อน อย่างการซาวน่า ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เป็นต้น
- หากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการของผิวหนังอักเสบบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและปัญหาที่คนไข้กังวลก่อนว่าสามารถรักษาด้วยการเติมฟิลเลอร์ขมับได้ไหม
- หากประเมินแล้วว่าสามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ได้ แพทย์จะแจ้งปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ และเตรียมผิวให้เรียบร้อยโดยการฆ่าเชื้อบริเวณที่จะฉีดและรอบ ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วทำการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการเจ็บขณะทำหัตถการ
- หลังจากนั้นจะฉีดฟิลเลอร์ขมับตามแผนการรักษาที่วางไว้ ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อได้ โดยในวันที่รับบริการ แพทย์จะแนะนำให้กลับไปนอนพัก และหมั่นประคบเย็นบริเวณที่ฉีดทุก ๆ 1 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวม
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ให้ประคบเย็นด้วยแผ่นเจล หรือผ้าห่อน้ำแข็ง ประมาณ 10 นาที ทุก ๆ ชั่วโมง ในวันที่เข้ารับบริการ
- หลังฉีดอาจพบอาการเขียวช้ำหรือบวมแดงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณจุดที่ฉีด หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง
- หลีกเลี่ยงให้บริเวณจุดที่ฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกับความร้อนทุกชนิด อย่าง การตากแดด การออกกำลังกายกลางแจ้ง การซาวน่า เป็นต้น
- ให้เลี่ยงการขยับผิวในจุดที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนตัวจนอยู่ผิดตำแหน่งได้
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดคงสภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น
- หากมีอาการปวด สามารถกินยาแก้ปวดได้
- งดแต่งหน้า งดทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือวิตามินซีภายใน 24 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
แม้ว่าฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูรอนิก แอซิด จะเป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูง และเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อยมาก แต่ถ้าหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญการก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีดังนี้
- ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น อาการบวมแดง เจ็บ รอยช้ำ คัน หรือเลือดไหลเล็กน้อยจากรอยเข็ม
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วเป็นก้อน เกิดจากการที่แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง หรือเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด
- อาการแพ้ยาชาจากการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด เป็นผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ทันที ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดเนื้อตาย หรือตาบอดได้
- ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อในบริเวณที่ไม่ต้องการ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ไม่สวยงาม
ฉีดฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้กี่เดือน
ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลผิวและกิจวัตรประจำวันของแต่ละคนด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์ขมับจะต้องเลือกทำกับแพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์อย่างมาก เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ และฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถึงแม้ว่าสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิดจะมีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองโดยที่ไม่ตกค้างในร่างกาย แต่ถ้าหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดเข้าเส้นเลือด ก็อาจทำให้เป็นอันตรายได้
โดย 5 เหตุผลที่คุณควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ The Ritz Clinic มีดังนี้
- ดำเนินการโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และชำนาญการด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ได้มาตรฐาน นำเข้ามาอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพทั้งจากอเมริกา ยุโรป และไทย (U.S. FDA, TH-FDA, CE) จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
- มีผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่น หลายแบรนด์ ทำให้ตอบโจทย์สภาพผิวและรูปหน้าของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม
- การันตีในผลลัพธ์ว่าคุณจะต้องพึงพอใจ
- มีการติดตามผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการเกิดความมั่นใจและยังมีการเปรียบ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ขมับ เติมไขมันหน้าผาก และผ่าตัดเสริมขมับด้วยซิลิโคน
นอกจากฟิลเลอร์ขมับแล้ว ยังมีอีก 2 หัตถการที่สามารถใช้แก้ไขปัญหาขมับตอบ ขมับยุบได้ นั่นก็คือการเติมไขมันหน้าผากและการผ่าตัดเสริมขมับด้วยซิลิโคน ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทั้ง 3 หัตถการนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วควรเลือกทำหัตถการไหนดี The Ritz Clinic จะพาคุณไปหาคำตอบเอง
1. ฟิลเลอร์ขมับ
- สิ่งที่ใช้ในการเติมเต็มขมับ: ฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด
- คุณสมบัติเด่น: สามารถคงตัวอยู่ในชั้นผิวได้ และมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและเต่งตึงขึ้น
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ จากการที่ลดน้ำหนักตัวลงเป็นจำนวนมาก หรือการยุบตัวของกระดูก หรือไขมันฝ่อจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น
- ระยะเวลาการพักฟื้น: อาจมีอาการบวมประมาณ 3-4 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่คงอยู่: 12-18 เดือน
2. เติมไขมันขมับ
- สิ่งที่ใช้ในการเติมเต็มขมับ: สเต็มเซลล์ที่ยังมีชีวิตซึ่งสกัดมาจากไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขาของผู้เข้ารับบริการ
- คุณสมบัติเด่น: เข้ากับร่างกายได้ดี มีโอกาสในการเกิดอาการแพ้ได้น้อยมาก เนื่องจากที่เป็นสารสกัดที่มาจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง และมีราคาถูกกว่าฟิลเลอร์มาก
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับยุบจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น และมีไขมันเพียงพอให้นำฉีดปรับรูปหน้า
- ระยะเวลาการพักฟื้น: 1-3 สัปดาห์หลังเข้ารับบริการ
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่คงอยู่: หลังจากที่เซลล์ไขมันรอดชีวิตและติดแล้ว จะอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี
3. ผ่าตัดเสริมขมับด้วยซิลิโคน
- สิ่งที่ใช้ในการเติมเต็มขมับ: ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์
- คุณสมบัติเด่น: สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต และถ้าหากไม่พอใจก็สามารถผ่าตัดออกได้ทั้งหมด
- เหมาะกับใคร: ผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ หรือขมับยุบมาก ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ หรือเติมไขมันขมับ
- ระยะเวลาการพักฟื้น: 2 สัปดาห์ และจะเข้าที่ภายใน 3 เดือน
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่คงอยู่: ถาวร
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
นอกจากเรื่องทั่วไปที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับครั้งแรกแล้ว The Ritz Clinic ยังได้รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับมาให้ด้วย สามารถไปดูคำถามและคำตอบได้เลย!
1. เป็นสิวตรงขมับ สามารถฉีดฟิลเลอร์ขมับได้ไหม
ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบ หรือสิวหัวช้าง แนะนำให้รักษาสิวให้หายดีก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอาการอักเสบมากขึ้นหลังจากทำฟิลเลอร์ขมับได้
2. ฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถช่วยยกหางตาตกได้ไหม
สามารถช่วยได้ส่วนหนึ่ง โดยหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้ว จะทำให้ผิวหนังบริเวณขมับดูกระชับและเต่งตึงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รอยเหี่ยวย่นบริเวณหางตา หรือที่เรียกว่า “ตีนกา” ดูลดลงตามไปด้วย ทำให้หางตาที่ตกแลดูยกขึ้นได้
3. ฉีดฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม
ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะมีการแปะยาชาก่อน และในฟิลเลอร์ก็จะมีส่วนผสมของยาชาอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการได้มาก ใครที่กลัวเจ็บ ไม่ต้องกังวลเลย
4. ฉีดฟิลเลอร์ขมับนอนตะแคงได้ไหม
ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงไปก่อน เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ ปวดศีรษะ หรือทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ แต่หลังจากที่ฟิลเลอร์เข้าที่แล้วก็สามารถนอนตะแคงได้ ไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใด
5. ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วปวดหัวเกิดจากอะไร อันตรายไหม
การที่เราฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วปวดหัว เป็นผลข้างเคียงมาจากการที่มีเนื้อฟิลเลอร์แทรกเข้าไปในกล้ามเนื้อบริเวณขมับ ร่วมกับอาการบวมของเข็ม แล้วทำให้เกิดอาการปวดหัวตามมา เป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ไม่ได้เป็นอันตราย และสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด
6. ฉีดฟิลเลอร์ขมับบวมกี่วัน กี่วันเข้าที่
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ขมับจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วัน และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ ยุบตัวลง และเข้าที่ภายใน 2 สัปดาห์
สรุปเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
จะเห็นได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญยังเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ เจ็บตัวน้อย และไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานด้วย ใครที่มีปัญหาขมับตอบอยู่ แนะนำให้ลองเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ขมับได้เลย รับรองว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน แต่จะต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญ ทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น เพื่อการดูแลผิวให้มีสุขภาพดีอย่างปลอดภัย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- ติดต่อโดยตรงที่เดอะริทซ์คลินิก The Ritz Clinic ทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
- Facebook Inbox THE RITZ : https://www.facebook.com/theritzclinic
- Instagram : theritzclinic.official
- Line Official Account : @theritzclinic
- โทรเข้า Call Center ของ The Ritz Clinic : 088-892-2666
เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างดี ทีมคุณหมอพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก: Healthline, Cerulean Medical Institute