Call Center : 088-892-2666
Line OA : @Theritzclinic
Open hours : 10:00 – 20:00

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ แบน บุ๋ม โดยไม่ต้องผ่าตัด

รวมครบทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

- By Dr. Ritz

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

หน้าผากแบน หน้าผากยุบ หน้าผากไม่เรียบ นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติแล้ว ในด้านของโหงวเฮ้งยังถือว่าไม่เอื้ออำนวยต่อการประสบความสำเร็จในชีวิต และความร่ำรวยเงินทองด้วย แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เพราะเดอะริทซ์คลินิก (THE RITZ CLINIC) จะพาไปรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หัตถการที่สามารถช่วยปรับรูปทรงหน้าผากให้โหนกนูน เต่งตึง เรียบเนียน ทำให้ใบหน้าดูสดใส และมีมิติมากขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!

ฟิลเลอร์หน้าผากคืออะไร

เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น โครงสร้างกระดูกหน้าผากอาจมีการยุบตัวลง หรือเนื้อเยื่อ หรือไขมันที่หน้าผากฝ่อตัวลง จนทำให้เกิดปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือหน้าผากบุ๋มตามมา การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก (Forehead Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “HA Filler” เข้าไปที่บริเวณหน้าผาก เพื่อทดแทนส่วนที่หายไปเหล่านี้ และปรับรูปทรงหน้าผากให้ได้สัดส่วนที่สมดุลและสวยงามมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบน แคบ ยุบ และริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างไร

HA Filler จะมีคุณสมบัติคงตัวอยู่ใต้ชั้นผิว เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจึงสามารถเข้าไปทดแทนกระดูกที่ยุบตัว คอลลาเจนที่ลดลง หรือไขมันที่ฝ่อตัวลงไปได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น จึงสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีความเต่งตึง เรียบเนียน และมีสุขภาพดีขึ้นได้

ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากอันตรายไหม

HA Filler เป็นสารเติมเต็มที่ผ่านการรับรองรองจากองค์องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และ อย. ของประเทศไทย แล้วว่า สามารถนำมาใช้ฉีดปรับรูปหน้าได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เนื่องจากไฮยาลูรอนิก แอซิด เป็นสารที่สร้างขึ้นเลียนแบบสารธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ จึงสามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกายของเรา และเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อยมาก ๆ

อีกทั้งร่างกายของเรายังสามารถสร้างเอนไซม์ไฮยาลูรอนิเดส (Hyaluronidase) มาสลายฟิลเลอร์ได้เอง ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปจนหมด ไม่มีการตกค้างในร่างกาย และถ้าหากเราไม่พอใจในผลลัพธ์ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีด้วย

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากจะต้องทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะถ้าทำกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ แล้วแพทย์ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากผิดชั้นผิวหนัง ผิดจุด หรือฉีดตื้นเกินไป นอกจากจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างหน้าผากไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น และฟิลเลอร์ไหลย้อยแล้ว ยังเสี่ยงที่จะฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังจอประสาทตา แล้วทำให้ตาบอดได้ด้วย

ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ THE RITZ CLINIC

ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ The Ritz Clinic

  • ดำเนินการโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และชำนาญการด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ได้มาตรฐาน นำเข้ามาอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพทั้งจากอเมริกา ยุโรป และไทย (U.S. FDA, TH-FDA, CE) จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
  • มีผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่น หลายแบรนด์ ทำให้ตอบโจทย์สภาพผิวและรูปหน้าของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม
  • การันตีในผลลัพธ์ว่าคุณจะต้องพึงพอใจ
  • มีการติดตามผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการเกิดความมั่นใจและยังมีการเปรียบ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี

ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีราคาและรุ่นย่อยลงมาแตกต่างกันไป ทำให้หลายคนที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาก่อน ไม่รู้ว่าจะเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ในส่วนนี้ THE RITZ CLINIC จะขอแนะนำฟิลเลอร์หน้าผาก 2 ยี่ห้อหลักที่ อย.ไทย รับรอง และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างที่น่าสนใจดังนี้

Restylane

1. Restylane

เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่พัฒนาขึ้นจากประเทศสวีเดน มีการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และในปัจจุบันก็มีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีดังนี้

  • Restylane Classic : เนื้อฟิลเลอร์แข็งปานกลาง สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น-ลึกได้ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณหน้าผาก ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และปาก
  • Restylane Vital : เนื้อฟิลเลอร์มีอนุภาคเล็ก และเกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ มาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก

Juvederm

2. Juvederm

เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกาที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยแล้วทั้งจาก อย. อเมริกา และ อย. ไทย นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ยี่ห้อนี้จะมีการผสมยาชามาเรียบร้อย ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาฉีด สามารถนำไปใช้ได้กับทุกจุดบนใบหน้า และเป็นหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูง

โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็คือ Juvederm Vobella เป็นรุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์มีความนิ่ม โมเลกุลขนาดเล็ก และเนื้อละเอียดที่สุด เหมาะสำหรับเติมเต็มบริเวณที่ต้องการให้เรียบเนียน เช่น หน้าผาก หรือปาก

ควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่ CC

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว เป้าหมายในการรักษา และการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษา ถ้าหากอยากทราบปริมาณฟิลเลอร์ที่แน่นอน แนะนำให้เข้าไปพบแพทย์เพื่อทำการประเมินก็จะแม่นยำที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาเท่าไหร่

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาเท่าไหร่

ราคาการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ THE RITZ CLINIC ราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาท* สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินสภาพผิวได้ที่ THE RITZ CLINIC ทุกสาขา ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จองคิวออนไลน์ได้เลยที่  Instagram : THERITZCLINIC.OFFICIAL หรือ Line OA: @theritzclinic หรือ Facebook Inbox: THE RITZ หรือโทรศัพท์ 088-892-2666

*ราคาโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมก่อนสั่งซื้อแพ็กเกจ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ก่อนทำ 3-7 วันควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน
  • ก่อนทำ 1 วันควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ก่อนทำ 1 วัน ควรงดการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด รวมไปถึงควรเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสความร้อน อย่างการซาวน่า ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เป็นต้น
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการของผิวหนังอักเสบบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • แพทย์จะประเมินก่อนว่าปัญหาที่คนไข้กังวลอยู่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้หรือไม่
  • หากประเมินแล้วว่าสามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ได้ แพทย์จะแจ้งปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ และเตรียมผิวบริเวณหน้าผากให้เรียบร้อยโดยการฆ่าเชื้อบริเวณที่จะฉีดและรอบ ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วทำการฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือแปะยาชา เพื่อบรรเทาอาการเจ็บขณะทำหัตถการ
  • หลังจากนั้นจะฉีดฟิลเลอร์ตามแผนการรักษาที่วางไว้ ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อได้ โดยในวันที่รับบริการ แพทย์จะแนะนำให้กลับไปนอนพัก และหมั่นประคบเย็นบริเวณที่ฉีดทุก ๆ 1 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวม

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ให้ประคบเย็นด้วยแผ่นเจล หรือผ้าห่อน้ำแข็ง ประมาณ​ 10 นาที ทุก ๆ ชั่วโมง ในวันที่เข้ารับบริการ 
  • หลังฉีดอาจพบอาการเขียวช้ำหรือบวมแดงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณจุดที่ฉีด หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง
  • หลีกเลี่ยงให้บริเวณจุดที่ฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกับความร้อนทุกชนิด อย่าง การตากแดด การออกกำลังกายกลางแจ้ง การซาวน่า เป็นต้น
  • ให้เลี่ยงการขยับผิวในจุดที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนตัวจนอยู่ผิดตำแหน่งได้
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดคงสภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • หากมีอาการปวด สามารถกินยาแก้ปวดได้
  • งดแต่งหน้า งดทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือวิตามินซีภายใน 24 ชั่วโมง
  • งดรับประทานอาหารรสจัด ของดิบ และของแสลงตามที่แพทย์แนะนำ

ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นอย่างไร

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือจะเห็นผลทันทีหลังทำ ไม่มีรอยแผล และไม่ต้องพักฟื้น

ฟิลเลอร์หน้าผากอยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล ถ้าหากเราหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว เช่น การอาบน้ำร้อน การซาวน่า การดื่มแอลกอฮอล์ การนอนดึก หรือความเครียด และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ก็จะอยู่ได้นานมากขึ้น

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ THE RITZ CLINIC

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ The Ritz Clinic

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีดังนี้

  • อาจมีผื่น หรือจุดแดงบริเวณรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์
  • อาการปวดหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด
  • อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป เกิดจากการที่ฟิลเลอร์มีการกักเก็บน้ำใต้ผิวและดูดน้ำจากบริเวณรอบ ๆ จนทำให้ผิวดูฟูกว่าปกติ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิวหนัง ฉีดตื้นเกินไป สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
  • อาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือเกิดการอักเสบ จะมีลักษณะเป็นก้อนบวมนูน ผิวแดง และรู้สึกปวดมาก หากมีอาการดังกล่าวจะต้องรีบไปแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเจ็บไหม

ก่อนที่จะทำการฉีดหน้าผาก จะมีการแปะยาชาก่อน และฟิลเลอร์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ล้วนมีส่วนผสมของยาชาประกอบอยู่ได้ ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บขณะทำหัตถการได้มาก ไม่ต้องกังวลเลย

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ฉีดไขมันหน้าผาก ผ่าตัดเสริมหน้าผาก แตกต่างกันอย่างไร

นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากแล้ว ยังมีอีก 2 หัตถการหลัก ๆ ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือเป็นบุ๋มได้ นั่นก็คือ การฉีดไขมันหน้าผาก และการผ่าตัดเสริมหน้าผาก มีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้

1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าจะใช้สารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน และสามารถฉีดสลายได้หากไม่พอใจในผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ให้มีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย โดยผลลัพธ์ของฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

2. ฉีดไขมันหน้าผาก

การฉีดไขมันหน้าผาก จะเป็นการดูดไขมันส่วนเกินบริเวณต่าง ๆ ของผู้รับบริการ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา แล้วนำมาปั่นคัดแยกสเต็มเซลล์ที่ยังมีชีวิตมาฉีดเติมเต็ม โดยจะมีข้อดีตรงที่เข้ากับร่างกายได้ดี ไม่โอกาสเกิดอาการแพ้ เพราะเป็นสารจากร่างกายของเราเอง แต่จะต้องใช้ระยะเวลารอประมาณ 2-4 เดือน ถึงจะรู้ว่าเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปมีเซลล์ที่รอดชีวิตจำนวนมากน้อยเพียงใด และจำเป็นที่จะต้องฉีดเพิ่มไหม

3. ผ่าตัดเสริมหน้าผาก

การผ่าตัดเสริมหน้าผาก จะเป็นการศัลยกรรมเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ จะมีข้อดีตรงที่ให้ผลลัพธ์ถาวร แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ เพราะต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานหลายเดือน และไม่สามารถปรับลดความโหนกนูนได้ด้วยวิธีการทั่วไป จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขปรับแต่งเท่านั้น

บรรยากาศห้องทำหัตถการ The Ritz Clinic

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าผาก

1. ฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน ต้องการปรับรูปทรงหน้าผากให้ได้สัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น หรือคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบริเวณหน้าผากก็สามารถทำฟิลเลอร์หน้าผากร่วมกับโบท็อกซ์ลดริ้วรอยได้เช่นกัน

2. ฟิลเลอร์หน้าผากต้องใช้กี่ซีซี

ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 ซีซี ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายในการรักษาของแต่ละบุคคล

3. ฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันยุบ

หลังจากทำฟิลเลอร์หน้าผากแล้ว อาจมีอาการบวมมากประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ยุบลง และเข้าที่ภายใน 14 วัน

4. ฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันเห็นผล

การทำฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลัง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2 – 3 สัปดาห์

5. ฟิลเลอร์หน้าผากอยู่ได้กี่เดือน

ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 6 – 24 เดือน เลย

6. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยเรื่องอะไร

สามารถทดแทนกระดูกหน้าผาก เนื้อเยื่อ หรือไขมันที่มีการฝ่อตัวลง ช่วยปรับรูปทรงหน้าผากให้ได้สัดส่วนที่สมดุลขึ้นได้ รวมถึงเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก และทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล

7. ฟิลเลอร์จะสลายไปเองไหม

ฟิลเลอร์ของแท้ในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย

8. ฟิลเลอร์หน้าผากแล้วกดสิวได้ไหม

งดกดสิว จับ ถูหน้าแรง ๆ และนวดบริเวณหน้าผาก อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์หลังฉีด เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เข้าที่ก่อน ป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว หรือกระจายตัวออกไปยังตำแหน่งอื่น

9. ฟิลเลอร์หน้าผาก นอนท่าปกติได้ไหม

หลังทำฟิลเลอร์หน้าผาก งดนอนราบอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด หลังจากนั้นสามารถนอนได้ตามปกติ แต่ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับบริเวณหน้าผากได้

10. หน้าผากแบบไหนถึงจะโหงวเฮ้งดี

ลักษณะหน้าผากที่มีโหงวเฮ้งดี จะต้องมีความโค้งมน ไม่แบน ไม่ยุบ ผิวเรียบเนียน ไม่มีแผล ริ้วรอย และตำหนิบนหน้าผาก

11. ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ ต่างกันยังไง

ฟิลเลอร์หน้าผากจะทำเพื่อแก้ปัญหารอยย่น หรือร่องที่หน้าผากให้ดูตื้นขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้ว จะทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ในขณะที่ฟิลเลอร์ขมับ จะทำเพื่อแก้ไขปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น

สรุปเรื่องฟิลเลอร์หน้าผาก

จะเห็นได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหน้าผากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หรือริ้วรอยบนหน้าผาก โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มผิวบริเวณหน้าผากให้เต็ม ทำให้หน้าผากมีความโหนกนูนขึ้น ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น และเต่งตึงได้ทันที ที่สำคัญยังไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้โดยไม่ตกค้างในร่างกาย จึงนับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้งที่หน้าผากเลย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างดี ทีมคุณหมอพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก: Healthline, Galderma, American Board of Cosmetic Surgery

Share

Related Articles

Picosecond-Laser มีบทความ
1-หน้าผากย่น-มีริ้วรอยบนหน้าผากทั้งที่อายุยังน้อย-แก้ยังไงได้บ้าง
สิวอุดตันเกิดจากอะไร รักษายังไง

Moveo Red Laser

ราคาทดลอง 990.-

ปรึกษาฟรี
ถามหมอได้เลยครับ