ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เลือกยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

01/11/2023

- By Dr. Ritz

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สมดุลสวยงาม แก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้อย่างเห็นผล เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องระยะเวลาพักฟื้นนาน แถมผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานหลายเดือนด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งอาจทำให้แต่ละคนไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ไม่รู้ว่าแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร เดอะริทซ์คลินิก (THE RITZ CLINIC) จะพาไปความรู้จักกับ 3 ฟิลเลอร์ยอดนิยมจาก 3 ประเทศเอง จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!

คุณสมบัติเบื้องต้นของฟิลเลอร์

ก่อนที่จะไปรู้จักกับฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ คุณควรที่จะทำความเข้าใจกับคุณสมบัติเบื้องต้นของฟิลเลอร์ก่อน เพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดเจนว่าฟิลเลอร์เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างไร โดยฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA จะมีคุณสมบัติสำคัญอยู่ 3 ข้อหลัก ๆ ที่ต้องให้ความสำคัญ ดังนี้

ความแข็ง (Elasticity) : จะแสดงถึงความทนต่อแรงกดในแนวตั้ง โดยฟิลเลอร์ที่มีค่าความแข็งสูงก็จะเหมาะสำหรับการมาฉีดเพื่อปรับยกโครงหน้าในชั้นกระดูก เช่น คาง จมูก หรือเบ้าตาลึ
ความยืดหยุ่น (Plasticity) : จะแสดงถึงความทนต่อแรงบิดในแนวนอน โดยฟิลเลอร์ที่มีค่าความยืดหยุ่นสูงก็จะเหมาะสำหรับฉีดบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก หรือแก้มตอบ เพราะฟิลเลอร์จะไม่มารวมกันเป็นก้อน หรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
ความอุ้มน้ำ (Water holding) : ฟิลเลอร์ที่มีค่าความอุ้มน้ำสูง เนื้อฟิลเลอร์ก็จะมีความฟูมากเมื่อดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่ถ้าดื่มน้ำน้อย ฟิลเลอร์จะไม่แฟบลงมากเลย จะเหมาะสำหรับฉีดบริเวณร่องแก้ม หรือขมับ เพราะเวลาที่ฟิลเลอร์ฟูเยอะ ๆ จะไม่ทำให้ดูหน้าบวม

จะเห็นได้ว่า คุณสมบัติของฟิลเลอร์เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะส่งผลต่อความเหมาะสมในการเลือกฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดด้วย ถ้าหากแพทย์ผู้ทำการรักษาเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมมาใช้ฉีด ก็อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีนั่นเอง

เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

เพื่อให้คุณสามารถเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายมากขึ้น เราขอแนะนำ 3 ฟิลเลอร์ที่นิยมนำมาใช้ฉีดในปัจจุบัน และผ่านการรับรองจาก อย.ไทย แต่ละรุ่นจะมีความน่าสนใจอย่างไร ไปดูกันเลย!

1. Restylane filler

Restylane filler เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน จัดเป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลก มีการวิจัยและพัฒนามาอย่างยาวนานในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัยหลังฉีด จึงทำให้ได้รับความนิยมในทั่วโลกมากกว่า 70 ประเทศ

ตัวอย่างรุ่นของ Restylane filler เช่น

Restylane Classic ตัวเนื้อสารจะมีโมเลกุลใหญ่ ให้สัมผัสที่แข็งปานกลาง เหมาะสำหรับการใช้เติมปัญหาร่องลึกต่าง ๆ
Restylane Vital Light ตัวเนื้อสารจะนิ่มและมีโมเลกุลขนาดเล็ก เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยและการเติมผิวชั้นตื้น
Restylane Lyft ตัวเนื้อสารจะแข็ง มีความคงตัวสูง และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับใช้เติมเต็มร่องลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก เช่น ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม รวมไปถึงฉีดปรับรูปหน้าอย่างคาง ยกกรอบหน้า หรือแก้มส้ม
Restylane Refyne ตัวเนื้อสารจะนิ่มและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับใช้แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ อย่าง ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก
Restylane Defyne ตัวเนื้อสารจะแข็งปานกลาง และมีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบาง สามารถนำมาใช้ฉีดแก้ปัญหาบริเวณใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม แก้มส้ม แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก และกรอบหน้า

2. Juvederm filler

Juvederm filler เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกาที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยแล้วทั้งจาก อย. ไทย และ อย. อเมริกา จึงทำให้สามารถมั่นใจในเรื่องของความประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้ไม่แพ้กัน โดยยี่ห้อนี้จะมีการผสมยาชามาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีดได้มาก

ตัวอย่างรุ่นของ Juvederm filler เช่น

Juvederm Ultra plus ตัวเนื้อสารจะนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับแก้ปัญหาร่องลึกบริเวณใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ และร่องน้ำหมาก
Juvederm Volite ตัวเนื้อสารจะละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา หรือฉีดบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและฉ่ำน้ำขึ้น
Juvederm Voluma ตัวเนื้อสารจะแข็ง ฟูปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม และแก้มส้ม
Juvederm Vobella ตัวเนื้อสารจะนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็ก และละเอียดที่สุด สามารถนำมาเติมเต็มบริเวณที่ต้องการให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเช่นปาก หรือหน้าผากได้
Juvederm Volift ตัวเนื้อสารจะนิ่มและละเอียด สามารถนำมาใช้ฉีดบริเวณที่มีปัญหาไม่ลึกมาก เช่น ร่องแก้ม แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก หรือปากได้

3. Belotero filler

Belotero filler เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่นำเข้าโดย บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเดียวกับเครื่องยกกระชับ Ulthera SPT และโบทูลินัมท็อกซินยี่ห้อซีโอมิน (Xeomin) ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยจะมีจุดเด่นตรงที่ใช้ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษในการผลิตทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น

ตัวอย่างรุ่นของ Belotero filler เช่น

Belotero Soft (กล่องสีเหลือง) ตัวเนื้อสารจะละเอียดและมีโมเลกุลเล็ก ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณใต้ตา และทำให้ผิวฉ่ำน้ำขึ้นได้
Belotero Volume (กล่องสีม่วง) ตัวเนื้อสารจะมีความยืดหยุ่นและคงตัวได้ดี เหมาะสำหรับใช้เพื่อปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใต้ตา คาง ขมับ หรือแก้มส้ม
Belotero Balance (กล่องสีส้ม) เหมาะสำหรับทำให้ผิวเรียบเนียน นิยมนำมาใช้บริเวณใต้ตา
Belotero Intense (กล่องสีชมพู) ตัวเนื้อสารจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ อย่างร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือใช้เติมฟิลเลอร์ปากได้

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูล 3 ยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยมที่เรานำมาฝากในบทความนี้ จะเห็นได้ว่าแม้จะเป็นฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิดเหมือนกัน แต่ฟิลเลอร์ในละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะกับนำมาใช้ฉีดแก้ปัญหาที่แตกต่างกันตามไปด้วย การเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับจุดที่ฉีดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย ไม่อย่างนั้นก็อาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามคาดหวังได้

สำหรับท่านใดที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ แต่ไม่รู้จะไปฉีดที่ไหนดี สามารถเข้ามาใช้บริการที่ THE RITZ CLINIC ได้เลย เราดูแลโดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้และผ่านการรับรองจาก อย. ไทย เท่านั้น มีการประเมินอย่างละเอียดก่อนทำหัตถการ คุณหมอดูแลแบบเคสบายเคส รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน