หนึ่งในผลข้างเคียงที่หลายคนไม่อยากเจอมากที่สุดในการฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “โบท็อก” (Botox) นั่นก็คืออาการดื้อโบท็อก (Botox resistance) เพราะเมื่อเป็นแล้ว จะทำให้ฉีดโบท็อกไม่เห็นผล แล้วอาการดื้อโบท็อกนี้ คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด สามารถแก้ไข หรือป้องกันได้ไหม THE RITZ CLINIC ได้รวมคำตอบมาให้แล้ว อ่านได้เลยที่บทความนี้
ภาวะดื้อโบท็อกคืออะไร
ภาวะดื้อโบท็อก คือ ภาวะที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาทำลายตัวยาโบท็อกที่ฉีดเข้าไป เพราะมองว่าเป็นสารแปลกปลอมที่เข้ามาร่างกาย ส่งผลให้ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล หรือถ้าเห็นผล ก็จะเห็นผลได้น้อยมาก และฤทธิ์ของโบท็อกเสื่อมไวกว่าปกติ จากเดิมที่ออกฤทธิ์ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน ก็อาจอยู่ได้เพียง 1 – 2 เดือนเท่านั้น
ดื้อโบท็อกเกิดจากสาเหตุใด
อาการดื้อโบท็อกจะเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- ฉีดโบท็อกปริมาณมาก หรือถี่เกินไป : โดยปกติแล้ว ควรเว้นระยะห่างการฉีดโบท็อกแต่ละครั้งประมาณ 3 – 4 เดือนขึ้นไป เพื่อรอให้โบท็อกที่ฉีดไปล่าสุดเสื่อมฤทธิ์ลงก่อน แต่ในคนที่ฉีดโบท็อกถี่กว่านั้น ก็อาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้
- ฉีดโบท็อกปลอม หรือโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน : นอกจากจะฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยแล้ว การฉีดโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการควบคุมอุณหภูมิตัวยา จนทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้โบท็อกได้มากด้วย
- เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของผู้เข้ารับบริการเอง : ผู้เข้ารับบริการฉีดโบท็อกบางราย ร่างกายจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันออกมาต่อต้านโบท็อกมากกว่าปกติ ทำให้การฉีดโบท็อกครั้งต่อ ๆ ไปไม่ได้ผล หรือเห็นผลน้อยกว่าคนทั่วไป
จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีภาวะดื้อโบท็อก
เราสามารถสังเกตตัวเองได้ง่าย ๆ โดยดูจากผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อก ไม่ว่าจะเป็น การฉีดโบท็อกในปริมาณเท่าเดิม แต่ได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนเดิม หรือจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณโบท็อกถึงจะได้ผลลัพธ์เท่าเดิม หรือในบางรายที่มีอาการดื้อโบท็อกมาก ๆ ก็จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดโบท็อกเลย
ดื้อโบท็อกอันตรายไหม
ภาวะดื้อโบท็อกไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย แค่ฉีดโบท็อกแล้วจะเห็นผล ทำให้ต้องหันไปทำหัตถการช่วยลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้าอื่น ๆ แทน
ดื้อโบท็อกแก้ไขได้หรือไม่
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาอาการดื้อโบท็อก ผู้ที่มีอาการนี้ จะต้องรอให้ภูมิต้านทานต่อโบท็อกหมดไปเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 5 ปี หรือในบางรายอาจต้องรอนาน 10 – 20 ปีเลย
วิธีป้องกันอาการดื้อโบท็อก
อาการดื้อโบท็อกนั้น เมื่อเป็นแล้ว ส่วนใหญ่จะดื้อโบท็อกทุกยี่ห้อ และไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด ดังนั้นเราจึงควรป้องกันไม่ให้เกิดอาการดื้อโบท็อกตั้งแต่แรกถึงจะดีที่สุด โดยสามารถป้องกันง่าย ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้
- เลือกฉีดโบท็อกที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน
- ฉีดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
- ฉีดโบท็อกในปริมาณที่เหมาะสม
- เว้นระยะห่างการฉีดโบท็อกแต่ละครั้ง 3 – 4 เดือนขึ้นไป
สำหรับใครที่อยากฉีดโบท็อก ไม่ว่าจะเป็น การฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกลิฟกรอบหน้า โบท็อกหน้าผาก หรือโบท็อกลดริ้วรอย แต่ไม่รู้จะไปทำคลินิกฉีดโบท็อกที่ไหนดี สามารถจองคิวมารับบริการที่ THE RITZ CLINIC ได้เลย เรามีโบท็อกยี่ห้อช้ั้นนำให้เลือกหลาย ไม่ว่าจะเป็น อัลเลอร์แกน (Botox Allergan), ดิสพอร์ต (Dysport), ซีโอมิน (Xeomin) หรือนาโบตะ (Nabota) ทุกเคสได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนทำ เพื่อการรักษาปัญหาผิวอย่างตรงจุดและเห็นผล ที่สำคัญมีรีวิวฉีดโบท็อกเพียบ รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- ติดต่อโดยตรงที่เดอะริทซ์คลินิก THE RITZ CLINIC ทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
- Facebook Inbox THE RITZ : https://www.facebook.com/theritzclinic
- Line Official Account : @theritzclinic
- Instagram : theritzclinic.official
- โทรเข้า Call Center ของ THE RITZ CLINIC : 088-892-2666
เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ทีมคุณหมอพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด