EMFACE นวัตกรรมล่าสุดเพื่อการยกกระชับใบหน้า ที่มาพร้อมกับความล้ำสมัย โดยในกระบวนการรักษาไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา ไม่มียาชา และไม่ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเกิดความเจ็บปวด หรือเกิดความกังวลใจ พร้อมคืนผิวสวยเรียบเนียนสุขภาพดีให้กับผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งในบทความนี้จะนำทุกท่านไปรู้จักกับนวัตกรรมใหม่นี้ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษาและทำความเข้าใจว่า ใช่การรักษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผิวพรรณหรือไม่
EMFACE คืออะไร?
EMFACE คือนวัตกรรมเพื่อความงาม และความสมบูรณ์แบบของใบหน้าโดยปราศจากความเจ็บปวด สามารถยกกระชับผิวหน้า และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าด้วยเทคนิคล้ำสมัยที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยการมาพบกันของ HIFES และ Synchronized RF เพื่อการรักษาผิวพรรณที่เจาะจงถึงชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังเป็นครั้งแรกของโลก และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)
ด้วยกระบวนการทำงานของ EMFACE ที่เข้าไปกระตุ้นการทำงานของชั้นกล้ามเนื้อให้มีมวลมากขึ้น และแน่นขึ้น ส่งผลให้เกิดการยกกระชับจากภายใน เพื่อผลลัพธ์ใบหน้าอ่อนวัยภายนอก ที่สำคัญกระบวนการนี้ยังมีความปลอดภัยที่มาพร้อมกับความยั่งยืน สร้างเป็นกระแสความนิยมจากผู้เข้ารับการรักษาว่า EMFACE สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า และแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมไปถึงริ้วรอยต่าง ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา และไม่ต้องใช้ยาชา อีกทั้งยังใช้เวลาน้อย และไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา
พัฒนาการด้านความงามจากยุค AHA สู่ นวัตกรรม EMFACE
นวัตกรรมด้านความงามได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากยุคที่มีความนิยมทำ AHA และการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อต่อสู้กับปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่าง ๆ ก็พัฒนามาสู่การฉีดโบท็อกซ์เพื่อช่วยสร้างกรอบใบหน้าให้คมชัดขึ้น จากนั้นเราก็เข้าสู่ยุคของเครื่องไม้เครื่องมือ Thermage ที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวตั้งแต่ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันให้มีความกระชับแน่น ต่อมาก็เป็นการมาถึงของเครื่อง Ulthera ที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยการฟื้นฟูและรักษาผิวตั้งแต่ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน และชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว เพื่อการยกกระชับ
และเมื่อเข้าสู่ยุคนวัตกรรมใหม่อย่าง EMFACE การพัฒนาได้เกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยการนำเทคนิค Radio Frequency (RF) มาใช้งานด้านการยกกระชับผิวหน้า ที่มีข้อโดดเด่นคือ ตลอดขั้นตอนการรักษาจะไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้นเลย โดย EMFACE ได้รับการออกแบบให้สามารถทำงานเฉพาะชั้นผิวหนังที่ต้องการการรักษาได้โดยตรง ตัวเครื่องจะมุ่งเป้าไปที่ชั้นกล้ามเนื้อ และทำการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้น ผิวหน้าจึงยกกระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ และคงอยู่อย่างยั่งยืน
EMFACE ทำงานอย่างไร การรักษาจึงไร้ความเจ็บปวด
EMFACE ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการยกกระชับผิวหน้า ด้วยการส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ต้องผ่าตัดลงไปเพื่อทำการดึงหน้า แต่สำหรับ EMFACE ใช้เพียงวิธีแปะแผ่นสติกเกอร์ลงบนหน้าผาก และตำแหน่งของกรามทั้ง 2 ข้าง จากนั้นจะส่งคลื่นพลังงาน HIFES และ Synchronized RF ลงไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบนผิวหน้าทำงานคล้ายกับการให้กล้ามเนื้อได้ออกกำลังกาย โดยระหว่างการรักษาผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเพียงใบหน้าถูกยกกระชับขึ้นอย่างเป็นจังหวะ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นวัตกรรมนี้ปราศจากความเจ็บปวด จะมีเพียงความรู้สึกอุ่นบริเวณที่ติดแผ่นสติกเกอร์เท่านั้น และใช้เวลาเพียง 20-30 นาทีกระบวนการรักษาก็จะเสร็จสิ้นลง
ทำความรู้จักเทคโนโลยี HIFES และ Synchronized RF ในเครื่อง EMFACE
การทำงานของเครื่อง EMFACE ประกอบด้วย 2 เทคโนโลยีสำคัญ คือ HIFES และ Synchronized RF โดยการทำงานของ 2 เทคโนโลยีนี้ เมื่อผ่านแผ่นแปะบนผิวหน้าเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อแล้ว จะไปกระตุ้นเส้นประสาทให้กล้ามเนื้อทำงาน ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีจะทำหน้าต่างกัน คือ
- HIFES
เทคโนโลยีที่ช่วยกระตุ้นการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ สามารถรันสเต็ปได้มากถึง 125 Cycles ช่วยให้กล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเจาะจงลึกลงไปได้ถึง 20 มิลลิเมตรใต้ผิวหนัง ผ่านการควบคุมการวัดระดับความลึกของระบบ AI ให้ผิวหนังบริเวณที่รักษามีความลึกของพลังงานอย่างพอดิบพอดี - Synchronized RF
เทคโนโลยีที่อยู่ในรูปของคลื่นวิทยุ ที่สามารถส่งลึกลงไปใต้ผิวหนัง ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ จนถึงชั้นกล้ามเนื้อ โดยมีระบบ AI ช่วยควบคุมปริมาณความร้อนในแต่ละชั้นผิวให้มีอุณหภูมิไม่เกิน 42 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการเกิดรอยไหม้ของชั้นผิว และช่วยสร้างคอลลาเจน รวมไปถึงสร้างอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ริ้วรอยบนใบหน้าลดเลือนลง
ความโดดเด่นที่ทำให้เครื่อง EMFACE เป็นนวัตกรรมใหม่แห่งปี 2024
เครื่อง EMFACE เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ช่วยยกกระชับทุกชั้นกล้ามเนื้อ ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน และช่วยฟื้นฟูอีลาสติน โดยใช้เวลารักษาทั้งหมดประมาณ 20-30 นาที ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องทายาชา และไม่มีการใช้เข็มในการรักษา นอกจากนี้เครื่อง EMFACE ยังสามารถเข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อในส่วนที่ควบคุมการขยับหน้า การยิ้ม และการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าผาก ปรับผิวให้เนียนกระชับ ไปพร้อม ๆ กับการลดเลือนริ้วรอย และนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ ยังมีความโดดเด่นอื่น ๆ ที่ทำให้เครื่อง EMFACE กลายเป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี 2024
- ช่วยให้ชั้นตาเบิกกว้างขึ้น
- ใบหน้าได้สัดส่วนมีมิติ
- เพิ่มความหนาแน่นของชั้นกล้ามเนื้อทุกชั้น
- ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
- ดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพดีแบบองค์รวม
EMFACE มอบผลลัพธ์สุดประทับใจให้กับทุกคน
การรักษาด้วยนวัตกรรม EMFACE สามารถทำได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยผลลัพธ์หลังการรักษา เซลล์กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังจะมีความแข็งแรงขึ้น มีมวลกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวยกกระชับและเรียบเนียน คืนความสดใสและแลดูอ่อนกว่าวัยให้แก่ใบหน้า และเพื่อให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ทำการรักษาอย่างต่อเนื่องประมาณ 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์ และทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการรักษาภายใน 20 นาที ผู้เข้ารับการรักษาสามารถทำกิจวัตรประจำวันต่อได้ทันที
และสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าบอบบาง หรือไวต่อความรู้สึก อาจจะพบรอยแดงนิดหน่อยหลังการรักษา แพทย์จะแก้ไขอาการด้วยการมาสก์ผิวหน้าให้ผิวรู้สึกสบาย และผู้เข้ารับการรักษาก็จะรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจด้วย
นวัตกรรม EMFACE เหมาะกับใคร และไม่เหมาะกับใคร
การรักษาด้วยนวัตกรรม EMFACE เหมาะสำหรับกลุ่มบุคคลต่อไปนี้
- ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย และต้องการยกกระชับใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการให้กล้ามเนื้อใต้ผิวหน้ามีความแข็งแรง เพื่อผิวพรรณที่สดใส แลดูอ่อนกว่าวัย
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า พร้อมฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีด้วยการกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน และอีลาสตินให้มีประสิทธิภาพ
- ผู้ไม่ต้องการรักษาและไม่ต้องการให้สารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการดึงหน้าให้เรียบตึงโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา
- ผู้ที่ไม่ต้องการการทำหัตถการหลายอย่าง และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยหัตถการหลายอย่างพร้อมกัน
และสำหรับผู้ที่ไม่เหมาะสำหรับการรักษาด้วยเครื่อง EMFACE คือ กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ สตรีที่กำลังมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ผู้ที่ปัญหาผิวหนังอักเสบเรื้อรัง และผู้ที่มีบาดแผลอยู่ในตำแหน่งที่ต้องทำการรักษาด้วย EMFACE นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบุคคลที่ยังไม่เหมาะสำหรับการรักษาอีก คือ
- ผู้ป่วยโรคลมชัก
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ที่กำลังมีไข้
- ผู้ที่อยู่ในขั้นตอนการรักษาโรคมะเร็ง และเนื้องอก
- ผู้ที่ฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
- ผู้ที่ฝังเครื่องกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาท หรือมีเหล็กฝังอยู่บริเวณใบหน้า
EMFACE นวัตกรรมแห่งความงาม ที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่เคยทำหัตถการบนใบหน้าเพราะกลัวเจ็บ ได้มีโอกาสเข้ารับการรักษา โดยทุกขั้นตอนการรักษาไม่ใช้เข็มฉีดยา ไม่ต้องทายาชา ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา และไม่ต้องทนความปวดระบมหลังการรักษา ตอบโจทย์ความงามแห่งยุคใหม่ ที่เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้แข็งแรงในขั้นตอนเดียว ไม่ต้องทำหัตถการหลายอย่าง อีกทั้งการรักษาแต่ละครั้งยังใช้เวลาเพียงนิดเดียวก็สามารถออกไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามต้องการ