โปรแกรม Rejuran ฟื้นบำรุงผิว คืนความอ่อนวัย พร้อมปรับสภาพผิวให้ฉ่ำน้ำ ดูสุขภาพดี

โปรแกรม Rejuran คือตัวช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวให้กลับมามีสุขภาพดี แลดูอ่อนวัย พร้อมการยกกระชับ ด้วยส่วนผสมที่มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย. ไทย) แบบฉีด, KFDA และ CE และมีงานวิจัยรับรอง ซึ่งในปัจจุบันโปรแกรม Rejuran ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยในบทความนี้เราจะนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรแกรม Rejuran สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจว่า ควรเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้หรือไม่

โปรแกรม Rejuran ตัวช่วยยอดฮิต สำหรับคนรักผิว

โปรแกรม Rejuran ถูกจัดอยู่ในกลุ่มการทำหัตถการแบบเมโสหน้าใส โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ โพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ PN ซึ่งมีความบริสุทธิ์ และความเข้มข้นสูงถึง 2% โดยแหล่งที่มาคือการสกัดจาก DNA Salmon ที่อยู่อาศัยอยู่ในทะเลตามธรรมชาติ ซึ่ง DNA ชนิดนี้ มีความคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์มากถึง 98% โดยเมื่อนำมาฉีดสู่ชั้นหนังแท้ จะมีประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิว ช่วยให้ชั้นหนังแท้มีความแข็งแรงจากภายใน ส่งออกมาสู่ภายนอก ริ้วรอยแห่งวัยต่าง ๆ จะลดเลือนลง อีกทั้งยังปรับสีผิวให้เรียบเนียนโดยเห็นผลได้ทันทีหลังการรักษา และเพื่อให้ตอบโจทย์ผิวพรรณที่แตกต่างกัน โปรแกรม Rejuran ยังมีให้เลือกมากถึง 4 รุ่นด้วยกัน คือ

• Rejuran Classic กล่องดำ
  ใช้การทำหัตถการด้วยการฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง โดยฉีดจุดละ 0.025-0.05 มิลลิลิตร ให้แต่ละจุดห่างกัน 0.5-2 เซนติเมตร และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด การฉีด 3 ครั้งแรกควรฉีดทุก ๆ 3 สัปดาห์ จากนั้นจึงเว้นช่วงเป็นทุก ๆ 3 ถึง 6 เดือนจึงเข้ารับการฉีดเพิ่ม และหลังจากการฉีดรักษาจะมีตุ่มนูนแดงเกิดขึ้น ให้ปล่อยไว้ประมาณ 3-5 วันตุ่มแดงนั้นจะหายไปเองตามธรรมชาติ ส่วนขั้นตอนการรักษา แพทย์จะแปะยาชาก่อนฉีดประมาณ 30-45 นาที ผู้เข้ารับการรักษาที่มีอายุมากกว่า 45 ปี หลังจากฉีดครั้งที่ 4 ควรกลับมาฉีดเพิ่มทุก ๆ 3 เดือน และผู้เข้ารับการรักษาที่มีอายุน้อยกว่า 45 ปีหลังการฉีดครั้งที่ 4 ควรกลับมาฉีดเพิ่มทุก ๆ 6 เดือน

• Rejuran HB Plus
  เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับสโลแกน Less Pain and More of Water-glow Effect ที่นอกจากจะมีส่วนประกอบหลักอย่างโพลีนิวคลีโอไทด์ ที่ได้จาก DNA ของปลาแซลมอนธรรมชาติแล้ว ขั้นตอนการสกัดยังใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย DOT Technology เพื่อการฟื้นบำรุงผิวอย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และมี Lidocaine ช่วยบรรเทาอาการปวดจากการฉีดด้วย โดยผลลัพธ์การรักษา ผิวจะมีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับสัมผัสเรียบเนียน ยกกระชับ และรูขุมขนเล็กลง นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ และช่วยเพิ่มความสมดุลของต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังให้มีความชุ่มชื้น โดยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ลำคอ และหลังมือ

• Rejuran-i
  เป็นรุ่นที่มีความหนืดน้อยที่สุด แต่สามารถอุ้มน้ำได้เร็วเมื่อเทียบกับรุ่นคลาสสิกกล่องดำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขอบตาดำคล้ำ ทั้งขอบตาด้านบนและขอบตาด้านล่าง หรือผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณเปลือกตา โดยเทคนิคการฉีด จะใช้แคนนูล่า เบอร์ 27G หรือ 30G ฉีดเข้าสู่ชั้นผิว Subdermis สำหรับผู้ที่มีปัญหาขอบตาดำคล้ำ และใช้เข็มคมขนาด 34G 4 mm ฉีดลงสู่ชั้นหนังแท้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ให้เกิดการแบ่งตัวและสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และ ECM อื่น ๆ เพื่อให้ชั้นหนังแท้หนาตัวขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวหนังมีความชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่น โดยจำนวนการฉีดรักษา ควรอยู่ที่ประมาณ 3-4 ครั้งสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยฉีดมาก่อน และฉีดซ้ำอีกทุก ๆ 3-6 เดือน ตามความเหมาะสมของสภาพผิวและความเสื่อมของผิว ซึ่งแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน และระยะห่างของการฉีดแต่ละครั้งในช่วง 3-4 ครั้งแรก ควรห่างกันประมาณ 30 วัน และหลังจากฉีดครบ 4 ครั้งแล้ว ควรฉีดเพิ่มโดยทิ้งระยะเวลา 3-6 เดือน

• Rejuran-S
  เป็นรุ่นที่มีความหนืดมากที่สุด แพทย์จะใช้สำหรับรักษารอยแผลที่มีความลึก อย่างรอยหลุมสิว หรือรอยที่เกิดจากอุบัติเหตุ อีกทั้งรุ่นนี้ยังนิยมใช้ในเรื่องของการป้องกันแผลเป็นที่เป็นรอยนูนอันเกิดจากการผ่าตัดหรืออุบัติเหตุด้วย โดยผู้เข้ารับการรักษาควรทำความเข้าใจก่อนว่า ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ยังไม่พบงานวิจัยที่ช่วยยืนยันว่า PN จะช่วยรักษารอยแผลเป็นนูนที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วได้ การรักษาจึงเป็นเพียงการช่วยป้องกันให้แผลหลังผ่าตัดหรือแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุไม่ให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นนูนเท่านั้น โดยผู้ที่เหมาะสำหรับการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้คือ ผู้ที่มีรอยหลุมสิวหรือรอยบุ๋มที่เกิดจากอุบัติเหตุ และผู้ที่มีแผลหลังผ่าตัด หรือแผลอันเกิดจากอุบัติเหตุที่มีโอกาสจะกลายเป็นแผลเป็นนูนในอนาคต แพทย์จะฉีดเพื่อช่วยป้องกันรอยแผลเป็นนูน โดย PN จะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและผิวหนังให้เกิดการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ไม่ก่อให้เกิดการสร้างพังผืดมากเกินไป ซึ่งพังผืดคือสาเหตุของรอยแผลเป็นนูน ส่วนจำนวนครั้งที่เหมาะสมสำหรับการฉีดรักษา กรณีที่มีรอยแผลบุ๋มลึก ควรฉีดรักษา 3-6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรห่างกันประมาณ 30 วัน หรือจนกว่าแผลรอยบุ๋มจะตื้นขึ้นตามความต้องการ หากใช้งานร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ อย่างการทำ Fractional Lasers หรือ Needle RF ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วขึ้น ส่วนการฉีดเพื่อป้องกันรอยแผลเป็นนูน ควรทำการฉีดรักษาทั้งหมด 3-4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรห่างกันประมาณ 30 วัน

หลักการทำงานของโปรแกรม Rejuran ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง แลดูอ่อนกว่าวัย

หลักการทำงานของโปรแกรม Rejuran ที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี และแลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ มาจากการใช้โพลีนิวคลีโอไทด์ที่บริสุทธิ์ และสามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ นำมาฉีดลงสู่ใต้ชั้นผิวหนังโดยตรง เพื่อทำงานแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพ นำไปสู่การกระตุ้นและช่วยฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงการสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว

โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นของโพลีนิวคลีโอไทด์ คือ ช่วยให้หลอดเลือดในเซลล์เล็ก ๆ ทำงานได้อย่างเชื่อมต่อกัน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพ หรือได้รับการทำลายให้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยต้านการอักเสบ ช่วยกระตุ้นการหลั่ง Growth Factor ช่วยสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผิวจึงได้รับการฟื้นบำรุงอย่างแข็งแรง ส่งผลให้ผิวหนังภายนอกมีความเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ

ทำความรู้จักโพลีนิวคลีโอไทด์สารสำคัญในโปรแกรม Rejuran

โพลีนิวคลีโอไทด์ หรือ PN ที่สกัดมาอย่างเข้มข้นจาก DNA Salmon มีประสิทธิภาพช่วยฟื้นบำรุงผิวด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้

• เป็นสารสกัด DNA ที่ได้จากปลา Salmon จากธรรมชาติ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะ DOTTM
• ตัวสารสกัด DNA จะมีลักษณะเป็นสารละลายที่อยู่ในรูปเจลใส ไม่มีสีอื่นเจือปน ทำให้เมื่อนำไปฉีดเข้าสู่ผิวหนัง สารละลายจะค่อย ๆ ซึมและกลืนไปกับร่างกาย เพื่อการซ่อมแซมผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ
• สารสกัด DNA Salmon ได้ผ่านการรับรอง และพิสูจน์แล้วว่า สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ โดยที่ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านใด ๆ
• ช่วยให้ชั้นผิวหนังแท้ และชั้นผิวหนังกำพร้า มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
• สามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวที่มีปัญหาเม็ดสีให้มีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่มีแผลเป็น หรือมีผิวหนังอักเสบมีอาการที่ดีขึ้นได้

โปรแกรม Rejuran ช่วยฟื้นบำรุงอย่างไรได้บ้าง

ดังที่ได้กล่าวไปว่า สารประกอบในโปรแกรม Rejuran คือสารที่สกัดมาจาก DNA Salmon ซึ่งได้มาจากส่วนของอสุจิ และนำไปผ่านกระบวนการ เพื่อให้มีความบริสุทธิ์ และเข้มข้น เมื่อนำมาใช้กับร่างกายมนุษย์จึงช่วยฟื้นบำรุงผิวได้ดังต่อไปนี้

• ฟื้นบำรุงผิว กระตุ้นและฟื้นบำรุงผิวให้มีความแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามอายุได้รับการซ่อมแซม ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบนใบหน้า ลำคอ รูขุมขนกว้าง แผลเป็น ความหมองคล้ำ และรอยแดง เป็นต้น
• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว ด้วยประสิทธิภาพของสารสกัด DNA Salmon จะช่วยกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ฟื้นบำรุงชั้นผิวหนังแท้ให้มีความแน่นและแข็งแรง อีกทั้งยังซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพจากภายในให้กลับมาสมบูรณ์ ผิวหนังภายนอกจึงมีความยืดหยุ่น และริ้วรอยต่าง ๆ บนผิวก็จะค่อย ๆ ลดเลือนไป
• ช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียน สำหรับผู้ที่มีรอยคล้ำ ด่างดำ และความไม่กระจ่างใสบนใบหน้า เมื่อได้รับการฉีดโปรแกรม Rejuran แล้ว ริ้วรอยต่าง ๆ จะแลดูจางลง และผิวจะค่อย ๆ เรียบเนียน สีผิวจะเริ่มสม่ำเสมอกัน

เช็กเลยคุณเหมาะจะได้รับการรักษาด้วยการฉีดโปรแกรม Rejuran หรือไม่

ด้วยประสิทธิภาพของ โปรแกรม Rejuran ที่เจาะจงฟื้นบำรุงผิวที่ลึกระดับชั้นหนังแท้ ดังนั้นกลุ่มบุคคลต่อไปนี้ จะเป็นกลุ่มที่เหมาะสำหรับการฉีดรักษาด้วย โปรแกรม Rejuran

• ผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป และมีปัญหาผิวหยาบแห้งกร้าน
• ผู้ที่มีริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้า หรือริ้วรอยที่เกิดจากมลพิษในอากาศ และริ้วรอยที่เกิดจากความเครียด
• ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ขาดความมั่นใจ
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การรักษาทันทีหลังการรักษาเสร็จสิ้น
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย และต้องการการยกกระชับ
• ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ใต้ตาคล้ำ แห้งเหี่ยวไม่ชุ่มชื้น
• ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว และรอยแผลเป็น

ฉีดโปรแกรม Rejuran จะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจภายในกี่วัน

เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพ แพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาทำการรักษาอย่างต่อเนื่องประมาณ 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 2-3 สัปดาห์ และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจะเกิดขึ้นตามระยะเวลานี้

• การรักษาครั้งที่ 1 ในครั้งแรกของการรักษาด้วยโปรแกรม Rejuran จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงภายใน 3-5 วัน หลังการรักษา โดยจะสังเกตได้ว่าผิวมีความเรียบเนียน และมีความชุ่มชื้นขึ้น
• การรักษาครั้งที่ 2 ผู้เข้ารับการรักษาจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงภายใน 2-4 สัปดาห์ หลังการรักษา และจะสัมผัสได้ว่า ผิวมีความเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ลดเลือนลง และรูขุมขนที่กว้างก็จะกระชับแน่นขึ้น
• การรักษาครั้งที่ 3 ผู้เข้ารับการรักษาจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงภายใน 4-6 วัน หลังการรักษา โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ ผิวมีความกระชับแน่นมากขึ้น ให้สัมผัสถึงผิวที่มีความเรียบแน่น อีกทั้งผิวยังแลดูสุขภาพดี มีความแข็งแรง
• การรักษาครั้งที่ 4 ผู้เข้ารับการรักษาจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงภายใน 6-8 วัน หลังการรักษา โดยผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ผิวเรียบเนียนให้สัมผัสนุ่ม สีผิวมีความสม่ำเสมอ ริ้วรอยต่าง ๆ ลดลง และแลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด

รักษาด้วยการฉีดโปรแกรม Rejuran เหมาะสำหรับผิวหนังบริเวณใดบ้าง

การฉีดรักษาโปรแกรม Rejuran เป็นการทำหัตถการเพื่อการฟื้นบำรุงผิวหน้าเป็นหลัก แต่ก็สามารถนำไปฉีดเพื่อแก้ปัญหาผิวในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ คือ

• ใบหน้า สามารถฉีดรักษาได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า แต่จะเห็นผลชัดเจนบริเวณหางตา หน้าผาก รอบดวงตา และหลุมสิว
• คอ เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากผู้เข้ารับการรักษาที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เพื่อเป้าหมายลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยบริเวณคอ และต้องการให้ผิวบริเวณลำคอมีความอิ่มน้ำมากขึ้น
• มือ การฉีดหลังมือเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ได้รับความนิยม เพื่อให้มือแลดูอวบอิ่ม ไม่แห้งกร้าน และดูสุขภาพดี

กลัวเข็มฉีดโปรแกรม Rejuran ได้ไหม

มาถึงคำถามยอดฮิตสำหรับผู้อยากสวยแต่กลัวเจ็บ การฉีดโปรแกรม Rejuran นั้น ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และจะรู้สึกแสบ ๆ และอุ่น ๆ ในขณะที่ตัวยาเริ่มซึมเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เป็นความรู้สึกที่สามารถทนได้ ไม่ก่อให้เกิดการระบม และไม่ทิ้งบาดแผล หรือรอยเข็มไวบนใบหน้า เนื่องจากเข็มฉีดโปรแกรม Rejuran เป็นเข็มชนิดพิเศษ และคมมาก ทำให้ฉีดลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้ง่าย ความเจ็บปวดจึงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย
เช็กอีกรอบ ข้อควรระวังสำหรับการฉีดรักษาด้วยโปรแกรม Rejuran

ถึงแม้ว่าโปรแกรม Rejuran จะได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ก็มีกลุ่มบุคคล และกลุ่มอาการบางอย่างที่ไม่สามารถฉีดรักษาด้วยโปรแกรม Rejuran ได้ ผู้ที่ต้องการรักษาจะต้องให้แพทย์วินิจฉัย และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าว คือ

• ผู้ป่วยที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDs และสารยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
• สำหรับผู้ที่รับประทานวิตามิน อย่างวิตามินอี น้ำมันอีฟนิงพริมโรส น้ำมันหรือสารสกัดจากกระเทียม และโสม ควรงดรับประทานก่อนการรักษา 1 สัปดาห์
• ผู้ป่วยโรค SLE, โรค Sarcoidosis Granulomatous Pathology และโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบ ไม่ควรรักษาด้วยการฉีดโปรแกรม Rejuran
• ผู้ป่วยที่มีอาการตอบสนองไวต่อสารโซเดียม โพลีนิวคลีโอไทด์ ไม่ควรรักษาด้วยการฉีดโปรแกรม Rejuran
• สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ไม่ควรฉีดรักษาด้วยโปรแกรม Rejuran
• ผู้ป่วยภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หรือผิวหนังติดเชื้อ ไม่ควรฉีดรักษาด้วยโปรแกรม Rejuran
• ผู้ที่แพ้อาหารทะเลทุกชนิด ไม่ควรฉีดรักษาด้วยโปรแกรม Rejuran

โปรแกรม Rejuran ตัวช่วยเพื่อการฟื้นบำรุงผิวพรรณด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแท้ ช่วยฟื้นบำรุงผิวชั้นหนังแท้ให้มีความแข็งแรง พร้อมกระตุ้นการสร้างอีลาสติน และคอลลาเจน ทำให้ผิวมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย ให้สัมผัสเรียบเนียน ผิวแน่น และสีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ ทั้งนี้ผู้เข้ารับการรักษาควรเลือกสถานพยาบาล หรือสถานเสริมความงามที่มีชื่อเสียง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย