ไขคำตอบ HIFU กับ Botox ต่างกันยังไง ควรเลือกทำอันไหนก่อนหลัง

hifu กับ botox เป็นหัตถการความงามที่มีจุดประสงค์ให้ใบหน้าเต่งตึงกระชับคล้ายกัน เพียงแต่มีรูปแบบในการทำหัตถการที่แตกต่างกัน  โดยไฮฟูจะเป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ยิงเข้าไปใต้ผิวหนัง เป็นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและยกกระชับขึ้น

ส่วนการทำโบท็อกนั้น เป็นการใช้สารที่เรียกว่า Botulinum Toxin Type A ซึ่งสามารถลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย  ทั้งยังช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อีกด้วย  ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถทำ hifu กับ botox ควบคู่กันได้เพื่อเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน  สำหรับใครที่ยังไม่เคลียร์ว่า 2 หัตถการนี้ต่างกันในส่วนไหนอีกบ้าง? ติดตามได้ในบทความนี้

ทำความรู้จัก HIFU กับ Botox คืออะไร?

สำหรับใครที่สนใจอยากทำหัตถการความงามด้วยวิธี hifu กับ botox ควรทำความเข้าใจอย่างถูกต้องก่อนว่าแต่ละวิธีมีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร? ทำร่วมกันได้ไหม? และควรทำ hifu หลัง botox หรือสามารถสลับลำดับก่อนหลังได้หรือไม่? รวมทั้งวิธีไหนจะช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้ดีกว่ากัน The Ritz Clinic เรามีคำตอบที่สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ มาฝากกัน

HIFU คืออะไร?

การทำไฮฟู คือ การใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ ส่งผ่านเข้าไปใต้ผิวหนังในระดับลึก เพื่อฟื้นฟูผิวให้กลับมาเต่งตึง ยกกระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สามารถทำได้หลายบริเวณไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ใต้คาง คอ รวมถึงต้นแขน และต้นขา เห็นผลการยกกระชับทันทีหลังทำ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ ทั้งยังไม่จำเป็นต้องทำบ่อย ๆ เพียงทำหัตถการนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

Botox คืออะไร?

Botulinum Toxin Type A คือชื่ออย่างเป็นทางการของโบท็อก ที่เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วมีผลกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อโดยตรง  โดยในวงการความงามจะใช้สารตัวนี้ เข้าไปยับยั้งการสั่งการของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ช่วยลดการหดตัวและเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยที่ปรากฏบนใบหน้าลดลง ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ใบหน้าเรียบเนียน

ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานประมาณ 6-12 เดือน โดยขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของโบท็อกที่ฉีด รวมทั้งการดูแลหลังทำ แนะนำให้เลือก botox ที่เป็นของแท้ผ่านการรับรองจากอย.ของไทยด้วยเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและไร้ซึ่งปัญหาผลข้างเคียงที่อาจกวนใจตามมาภายหลังได้

ความแตกต่างระหว่าง HIFU กับ Botox

Hifu และ Botox ต่างก็เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยทั้งคู่ แต่จะมีความแตกต่างระหว่าง hifu กับ botox อยู่ที่หลักการออกฤทธิ์ ขั้นตอนของหัตถการ รวมถึงความแตกต่างในด้านอื่น ๆ ที่ควรรู้ ดังนี้

ความแตกต่างด้านหลักการทำงาน

• Hifu จะใช้หลักการการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูงลงไปยังชั้นผิวหนัง SMAS ส่งผลให้ชั้นกล้ามเนื้อ SMAS และชั้นไขมันเกิดการหดตัว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวยกกระชับขึ้น
• Botox จะยับยั้งการปล่อยสารเคมี Acetylcholine จากส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เกิดการสร้างการให้กล้ามเนื้อหดตัวได้น้อยลง กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวลงชั่วคราว ผิวหนังจึงดูเรียบตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ ช่วยลดริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต

ความแตกต่างด้านผลลัพธ์หลังทำ

• hifu เห็นผลทันทีแต่ต้องใช้ระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่จะคงไว้ซึ่งผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
• botox เห็นผลได้เร็วแต่ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน

ความแตกต่างด้านผลข้างเคียงหลังทำ

• hifu แทบจะไม่มีผลข้างเคียงหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย 
• Botox อาจพบผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้ เช่น บวม แดง ช้ำ เขียว ตรงบริเวณที่ฉีด, แพ้เห่อแดง ที่ผิวหนัง หรือมีใบหน้าแข็งตึง หรืออาจเกิดหางคิ้วกระดก หรือหนังตาตกได้

แม้ว่าhifu กับ botoxจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็สามารถทำควบคู่กันได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

HIFU กับ Botox ทำพร้อมกันได้ไหม? ควรทำอันไหนก่อน?

หลายคนที่อยากทำทั้งสองหัตถการนี้ร่วมกัน ก็อาจมีคำถามว่า สามารถทำ hifu หลัง botox ได้ไหม? หรือควรเลือกทำอันไหนก่อน ?  แท้จริงแล้ว ควรทำไฮฟูก่อนโบท็อกซ์ เพราะการทำไฮฟู จะมีความร้อนที่เกิดจากการยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ลงใต้ผิว ในขณะที่ botox มีข้อห้ามในเรื่องการโดนความร้อน และนอกจากนั้นการทำไฮฟูที่หลังยังอาจเสี่ยงที่จะทำให้โบท็อกเคลื่อนที่ได้อีกด้วย

ดังนั้นจะต้องมีระยะห่างของเวลาในการทำหัตถการแต่ละชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่สามารถทำพร้อมกันได้ทันที แต่สามารถทำควบคู่กันได้  หรือให้แพทย์เป็นผู้แนะนำจะดีกว่า เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดซึ่งจะขึ้นอยู่กับความจำเป็นของปัญหาผิวของแต่ละคนด้วย

HIFU กับ Botox แบบไหนดีกว่ากัน

hifu กับ botox วิธีไหนดีกว่ากัน? ทั้ง 2 วิธีให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งคู่ เพียงแต่ปัญหาผิวหน้าของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งก่อนทำ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินสภาพปัญหาผิว เพื่อที่จะสามารถระบุวิธีการแก้ไขได้อย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล หรือในบางรายที่มีปัญหาผิวเยอะ แพทย์ก็อาจจะแนะนำให้ทำควบคู่กันเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่านั่นเอง

HIFU กับ Botox เหมาะกับใคร

เรียกได้ว่าทั้ง  hifu กับ botox ต่างเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องในยุคปัจจุบัน สามารถทำคู่กันหรือเลือกแบบใดแบบหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้าก็ได้  โดยทั้งสองหัตถการนี้จะเหมาะกับ

• ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าและต้องการคืนความอ่อนวัยให้ผิว
• ต้องการกระชับใบหน้าและรูขุมขนเพื่อให้ใบหน้าเรียบเนียน เต่งตึงยิ่งขึ้น
• ยกกระชับให้ใบหน้าให้เข้ารูป และมีกรอบหน้าที่ชัดมากยิ่งขึ้น

สรุปบทความ

ไม่ว่าจะเลือกเสริมความงามแก้ไขปัญหาผิวหน้าด้วย  hifu กับ botox  หรือวิธีอื่น ๆ สิ่งที่อยากจะแนะนำ คือ ควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ มีการรับรองคุณภาพ และมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย   รวมทั้งมีทีมแพทย์ที่ชำนาญในการทำหัตถการความงามแต่ละแบบโดยตรงอย่างที่ The Ritz Clinic เพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ร้ายแรงตามมา

ทั้งนี้หลังทำหัตถการก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคงความอ่อนวัยได้ยาวนาน หากสนใจสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามมายัง The Ritz Clinic ของเราได้เสมอ เรามีแพทย์และทีมงานที่พร้อมจะให้คำแนะนำ ดูแลทุกปัญหาผิวให้กับทุกท่านอย่างใกล้ชิด ช่วยเคลียร์ทุกประเด็นปัญหาความงามที่คาใจทุกท่านได้อย่างแน่นอน